ค้นพบสิ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นปิดบังมานาน เกี่ยวกับ #ต้นกำเนิดที่แท้จริงของประชากรญี่ปุ่น #ชาวไอนุ (#Ainu) ซึ่งถูกเรียกว่าชนเผ่าป่าเถื่อนมีหน้าตาคมเข้มนั้น คือ ชาวญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างแท้จริง ในขณะที่ประชากรส่วนใหญ่ที่หน้าตาตี๋หมวยรวมถึงราชวงศ์นั้นสืบเชื้อสายมาจากเกาหลี คือเผ่ายาโยอิผู้รุกราน คนญี่ปุ่นในปัจจุบัน จึงมีหน้าตาผสมผสาน ทั้งเข้มและตาตี่ มีสุขภาพดีกว่าเกาหลี
โดยชนเผ่ายาโยอิ อพยพมาจากเกาหลี เข้ามารุกรานเผ่าไอนุ(พื้นเมือง) และผสมข้ามพันธุ์ ราว 3000 ปีก่อน และขับไล่เผ่าไอนุ ให้ไปอยู่เกาะฮอกไกโดที่หนาวเย็น และสั่งให้ลืมภาษาเดิมและเชื้อชาติของตน เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียว
ในปี 2562 ดร. ฮิโรชิ ทานากะ นักพันธุศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ได้ทำการวิเคราะห์ดีเอ็นเอจากโครงกระดูกอายุ 3,800 ปี ที่พบในฮอกไกโด ซึ่งทางการญี่ปุ่นพยายามปิดกั้นไม่ให้มีการตรวจสอบมานานกว่า 40 ปี ผลการวิเคราะห์เผยให้เห็นความลับดังกล่าว
ตั้งแต่ปี 2408 นักสำรวจชาวอังกฤษชื่อ Thomas Wright Blackchiston ได้บันทึกลักษณะทางกายภาพของชาวไอนุที่มีเครา ดวงตาลึก และขนตามตัว ซึ่งแตกต่างจากชาวญี่ปุ่นทั่วไป ชาวไอนุอ้างว่าพวกเขาเป็นชาวพื้นเมืองดั้งเดิมของญี่ปุ่นทั้งหมด ก่อนจะถูกผลักดันให้ไปอยู่ทางเหนือโดยผู้รุกรานจากทะเล อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นปฏิเสธคำกล่าวอ้างเหล่านี้และส่งเสริมแนวคิดว่าชาวญี่ปุ่นเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันที่มีมาตั้งแต่อดีต
ในปี 2534 ดร. มาซาโก ยามาดะ พบว่า ชาวไอนุ มี mitochondrial DNA haplogroup Y1 ที่ไม่พบในประชากรญี่ปุ่น 99% ซึ่งพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นประชากรกลุ่มที่แยกขาดอย่างชัดเจน
ในปี 2541 การค้นพบโครงกระดูกสมัยโจมง (Jōmon) อายุ 9,000 ปี ในจังหวัดนากาโนะ โดย ดร. เคนิจิ ชิโนดะ เปิดเผยว่าดีเอ็นเอของหญิงสมัยโจมงคนนี้ตรงกับดีเอ็นเอของชาวไอนุในยุคใหม่อย่างน่าประหลาด นี่หมายความว่าชาวไอนุไม่ใช่ผู้อพยพใหม่จากไซบีเรีย แต่เป็นลูกหลานโดยตรงของชาวญี่ปุ่นดั้งเดิม
การวิเคราะห์เพิ่มเติมแสดงให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่นทั่วไปในโตเกียวมีเชื้อสายโจมงเพียง 12% ส่วนราชวงศ์ญี่ปุ่นมีเพียง 7% เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าผู้ปกครองญี่ปุ่นกว่า 90% สืบเชื้อสายจากผู้รุกรานโบราณ
การรุกรานของชาวยาโยอิ (Yayoi)
ประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล #ชาวยาโยอิจากคาบสมุทรเกาหลี ได้นำการปลูกข้าวแบบนาชุ่มน้ำเข้ามาในญี่ปุ่น เทคโนโลยีนี้ทำให้ประชากรชาวยาโยอิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกลืนพันธุกรรมของชาวโจมงผู้ล่าหาของป่า ยกเว้นในฮอกไกโดที่อากาศหนาวเกินไปสำหรับการปลูกข้าว จึงทำให้เชื้อสายโจมงยังคงอยู่
หลักฐานทางพันธุกรรมชัดเจนว่า เลือดกรุ๊ป O ซึ่งพบมากในเกาหลีและจีน มีสัดส่วนถึง 51% ในชายญี่ปุ่นยุคใหม่ แต่ไม่พบในชาวไอนุบริสุทธิ์
การกดขี่ทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์คือต้นเหตุของความลับที่ปกปิด
ตั้งแต่ปี2412 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออก "กฎหมายคุ้มครองอดีตชนพื้นเมืองฮอกไกโด" ซึ่งยึดที่ดิน ห้ามใช้ภาษา และออกกฎหมายปราบปรามวัฒนธรรมไอนุ เด็กๆ ถูกบังคับให้เข้าโรงเรียนประจำ และถูกห้ามไม่ให้พูดภาษาไอนุ พิธีกรรมทางศาสนาและรอยสักแบบดั้งเดิมถูกห้าม
แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศว่าชาวไอนุถูกกลืนหายไปแล้วในปี 2493 แต่การศึกษาทางพันธุกรรมในปี 2555 พบว่ามีคนในฮอกไกโดกว่า 36,000 คน ที่มีเชื้อสายไอนุ แม้จะมีเพียง 25,000 คนที่ยอมรับอัตลักษณ์นี้
การครอบครองโครงกระดูกโดยไม่ยินยอม
ในปี2561 มีการเปิดเผยว่ามหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นเก็บโครงกระดูกของชาวไอนุไว้มากกว่า 1,600 ชิ้น ซึ่งถูกนำมาจากสุสานศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต มหาวิทยาลัยฮอกไกโดเพียงแห่งเดียวเก็บไว้ 1,500 ชิ้น และปฏิเสธไม่คืนให้ครอบครัวเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา กระดูกเหล่านี้มีหลักฐานทางพันธุกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิ์ในที่ดินและการชดเชย
การค้นพบของ ดร. ทานากะในปี 2562
ดร.ทานากะวิเคราะห์ดีเอ็นเอจากโครงกระดูกชายไอนุที่เสียชีวิตในปี 2416 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นนโยบายกลืนชาติ เขาพบว่าชายคนนี้มียีนเฉพาะที่ส่งผลต่อรูปร่างหน้าตา ระบบภูมิคุ้มกัน และการเผาผลาญ ซึ่งอธิบายความแตกต่างทางกายภาพระหว่างชาวไอนุกับชาวญี่ปุ่นกลุ่มอื่น และยังพบว่ายีนเหล่านี้เหมาะกับวิถีชีวิตล่าสัตว์-เก็บของป่า แต่กลับทำให้พวกเขาเปราะบางต่อโรคเมื่อถูกบังคับให้เปลี่ยนมาใช้ชีวิตแบบเกษตรกรรมและการอยู่อาศัยอย่างแออัด
การฟื้นฟูอัตลักษณ์ในปัจจุบัน
ปัจจุบัน มีชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ในฮอกไกโดจำนวนมากที่ตรวจดีเอ็นเอและค้นพบเชื้อสายไอนุของตนเอง พิพิธภัณฑ์ต่างๆ เริ่มทำงานร่วมกับชุมชนไอนุเพื่อนำเสนอประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงมีอยู่โดยมีผู้พูดภาษาไอนุเป็นภาษาแม่เหลืออยู่เพียง 10 คน ซึ่งทั้งหมดอายุเกิน80 ปี
ความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมในวงกว้าง
การศึกษาพบว่าชาวไอนุมีความเชื่อมโยทางพันธุกรรมกับชาวพื้นเมืองในเขตไซบีเรีย เช่น ชาวชุกชีและชาวคอเรียน ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ก็มีเชื้อสายร่วมกับชาวอเมริกันพื้นเมืองกลุ่มแรกๆ นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อมโยงบางอย่างกับกลุ่มชนในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น พอลินีเชีย อีกด้วย
ย้ำ #ชาวไอนุคือกลุ่มประชากรดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ยาวนาน
ลอย ชุนพงษ์ทอง เรียบเรียง 23 ตุลาคม 2025
Read more
@chawboon1394
1 day ago