เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 มกราคม พ.ต.ต. เกียรติศักดิ์ เขียวสลับ รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถยนต์ ในหมู่บ้านนวธานี เขตคันนายาว จึงรุดตรวจที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ป้องกัน สาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหัวหมาก
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรูสองชั้นมีรั้วรอบขอบชิด พบรถยนต์รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อ Volvo xc60 t8 สีขาว ทะเบียน ฆร 1141 กรุงเทพมหานคร
จอดอยู่ภายในโรงจอดรถ มีแสงเพลิงกำลังลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดไม่ให้เพลิงลุกไหม้ไปยังตัวบ้าน
สอบถามนายขจิตสักก์ ชลิตอาภรณ์ อายุ 44 ปี เจ้าของรถ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ได้เห็นกลุ่มควันออกมาจากตัวรถคันดังกล่าวจำนวนมาก จากนั้นไฟได้ลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว ตนจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ
นายขจิตสักก์ ยังเผยว่า พยายามดับควัน และหาวิธียับยั้งควันไม่ให้มากขึ้น ทำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 20 นาที แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้นกลับแย่ลง ในระหว่างนั้นเริ่มมีเสียงแปลก ๆ (ตุ้บตั้บ) เลยทำให้คุณเท็นพยายามขนของมีค่าออกมาเท่าที่ทำได้ โดยพยายามไม่เข้าไปยุ่งที่ส่วนหน้าของรถเนื่องจากกลัวจะเกิดระเบิด ไม่นานก็มีประกายไฟที่ด้านข้างตัวรถ และลามท่วมทั่วทั้งรถ จากนั้นลามไปที่หลังคาบ้านส่วนโรงรถด้วยความรวดเร็ว คุณเท็นพยายามโทรหาศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อดังกล่าว แต่ด้วยเวลาในขณะนั้น ศูนย์ฯ รถยนต์ยังไม่เปิด
จึงเรียก รปภ. ในหมู่บ้านให้ช่วยนำถังดับเพลิงมาช่วยกันฉีด และโทรหาหน่วยดับเพลิงเพื่อแก้ไขปัญหาเพลิงไหม้นี้โดยเร็ว แต่รถดับเพลิงก็มาช้ามาก เนื่องด้วยตัวบ้านอยู่ส่วนลึกของหมู่บ้านพอสมควร ระหว่างที่รอรถดับเพลิงขนาดใหญ่ ก็มีมอเตอร์ไซค์ดับเพลิงมาช่วยยั้งเพลิงไม่ให้โหมไปมากกว่านี้ ก่อนที่รถใหญ่จะมา 1 คัน และตามมาเรื่อย ๆ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 4 - 5 คัน โดยประมาณ
ทั้งนี้ ยังเล่าเพิ่มเติมว่าในช่วงเวลาที่ 4 - 5 กำลังจะถึง ไฟได้ลามท่วมหลังคาโรงรถและกำลังลามไปที่ตัวบ้านใหญ่ แต่โชคดีที่คันที่ 4-5 มาได้ทันเวลาพอดี ความเสียหายทั้งหมดจึงหยุดไว้แค่โรงรถ
นายขจิตสักก์ เผยว่า ขณะที่เกิดเหตุตกใจมาก แต่โชคดีที่ลูกน้อยของเขา 2 คน ไม่ได้อยู่ในบริเวณพื้นที่อันตราย เลยทำให้ปลอดภัยกันทั้งคู่ และพยายามควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยปกติจะชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไว้ในตอนกลางคืน ค้างไว้จนเช้าค่อยดึงออก และนำรถออกไปใช้ ซึ่งทำแบบนี้เป็นประจำ เช่นเดียวกัน กับคืนก่อนเกิดเหตุ ก็ทำเช่นเดิม แต่ท้ายที่สุดกลับเกิดปัญหาจนได้
นายขจิตสักก์ ยังเผยว่า โชคดีที่เกิดขึ้นตอนกำลังจะออก ทำให้เห็นเหตุการณ์เห็นตั้งแต่แรก และสามารถดึงปลั๊ก รวมถึงขยับรถรอบข้างออกได้ทัน ถ้าเหตุเกิดในช่วงกลางคืน รถรอบข้างที่จอดติดกัน 3 - 4 คันคงไหม้ไปด้วย
เมื่อถามถึงสัญญาณก่อนหน้า และความน่าจะเป็นที่ทำให้รถอยู่ในสภาพนี้ นายขจิตสักก์ ให้ข้อมูลว่า รถใช้มาแล้ว 4 ปี ได้รับการเช็กสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ แต่ใน 4 - 5 เดือนที่แล้วโดยประมาณ หน้าปัดแสดงผลที่รถมีการเตือนว่าแบตเตอรี่ EV ซึ่งเป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่รถนั้นมีปัญหา จึงเอาเข้าศูนย์ฯ พบว่าเกิดปัญหาที่เซลล์แบต เซลล์หนึ่งในแบตเตอรี่ แต่ก็ได้รับการแก้ไข และสามารถนำมาใช้งานได้ปกติ โดยไม่มีสัญญาณใด ๆ เพิ่มเติม จนท้ายที่สุดก็เกิดเรื่อง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
