มองผ่านเลนส์คม-เขาชื่อ"ตายแน่"
เจ็ดคนไทยที่ถูกทหารกัมพูชาถูกจับไปขังคุกในกรุงพนมเปญ นอกจาก ส.ส.หน้าใหม่ กับนักเคลื่อนไหวหน้าเก่า คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่สะดุดชื่อชายหนุ่มคนนี้
ตายแน่ มุ่งมาจน คือชื่อของนักข่าวจากกองทัพธรรมมูลนิธิ ซึ่งต้นสังกัดของเขาคือ สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม "เพื่อมนุษยชาติ" หรือ "เอฟเอ็มทีวี"
ผู้ที่เป็นแฟนประจำของเอฟเอ็มทีวี คงคุ้นหน้า "เปี๊ยก" ตายแน่ มุ่งมาจน ในฐานะพิธีกรรายการ "ถึงคน ถึงสื่อ" และนักข่าวภาคสนามที่เกาะติดความเคลื่อนไหวทวงคืนแผ่นดินไทยมาโดยตลอด
"เปี๊ยก ตายแน่" ไม่ใช่นักข่าวภาคสนามประเภท "โชว์หน้า" เน้นรูปแบบสำคัญกว่าเนื้อหา หรือทำข่าวแนวขี่ม้าชมสวน
เขาลุยลึกเข้าไปในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อพบปะพูดคุยกับชาวบ้านที่ทำมาหากินอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน ทำงานกลางดินกลางแดด ไม่ห่วงหล่อ ไม่ห่วงสวย
ตอนที่นั่งดูรายการถึงคนถึงสื่อ เห็นภาพ "เปี๊ยก ตายแน่" นั่งพูดคุยกับชาวบ้านที่ชายแดน ยังแอบนึกสงสัยว่า เหตุใดนักข่าว "ฟรีทีวี" ไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของ "คนชายขอบประเทศ"
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย ที่ตายแน่กับคนไทย 6 คน ถูกทหารเขมรจับกุม กลับส่งผลดีให้แก่คนชายแดนที่ถูกต่างชาติยึดที่ดินทำกิน เมื่อสื่อทีวีกระแสหลักให้ความสนใจทำข่าวกันมากขึ้น
เอฟเอ็มทีวี อาจเป็นเพียงสื่อทางเลือก แต่ผลงานของ "เปี๊ยก ตายแน่" ทำให้รายงานข่าวจากพื้นที่ของฟรีทีวีบางช่อง มีค่าไม่ต่างอะไรกับข่าวประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ
ย้อนกลับไปเมื่อ 25 สิงหาคม 2548 ชื่อ "ตายแน่ มุ่งมาจน" ก็ตกเป็นข่าวใหญ่ เมื่อกระทรวงมหาดไทย อนุมัติการเปลี่ยนชื่อและนามสกุลของ ราเมศ เชียวเขตรวิทย์ สมาชิกชุมชนราชธานีอโศก อุบลราชธานี
เป็นเหตุให้ สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา แห่งรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ต้องโทรศัพท์ไปขอสัมภาษณ์หนุ่ม "ราเมศ" ที่มีชื่อใหม่ว่า "ตายแน่"
เขาเล่าว่า ระหว่างเป็นนักศึกษารามคำแหง ปี 2538-2539 ได้มีโอกาสศึกษาแนวทางของชาวอโศก และแนวปฏิบัติของ "สมณะโพธิรักษ์" ก็พบว่า ชาวอโศกมุ่งเน้นลดละอบายมุข กินน้อยใช้น้อย มักน้อยถือสันโดษ
อีกอย่างชาวอโศก มีชื่อแบบไทยๆ ไม่ต้องเป็นภาษาบาลี ที่ไม่ต้องมาแปลอะไรให้ยุ่งยาก เขาจึงคิดเปลี่ยนชื่อเป็นตายแน่
"ผมคิดว่า ถ้าผมชื่อตายแน่นี้ หนึ่งเป็นเรื่องเตือนสติตัวเอง อีกหนึ่งผมคิดว่า สังคมไทยน่าจะฉุกคิดเรื่องนี้ และนำหลักธรรมเรื่องนี้มาพิจารณานะครับ...พระพุทธเจ้าก็ตรัสในหลายพระสูตร ให้สาวกพิจารณาถึงความตาย เพื่อจะได้ดำเนินชีวิตไม่ประมาท ในวันวัยที่ผ่านไป"
บางคำอธิบายของตายแน่ ที่บอกผ่านรายการข่าวของสรยุทธ์ในวันนั้น (เว็บชาวอโศก) ส่วนนามสกุล "มุ่งมาจน" ก็สะท้อนปรัชญาการดำรงชีวิตของชาวอโศก
"ชาวอโศกนี่เจริญรอยตามพระพุทธเจ้า เชื่อว่าการมาจน นี่แหละจะมีความสุข ผมนี่ก็มาจน ผมนี่ก็จบปริญญาตรี พอเรียนจบไม่ได้ไปทำงานที่ไหนเลย ไม่รับเงินเดือน แล้วทีนี้ก็มาทำงานในชาวอโศกไม่มีเงินใช้ อยู่กินกับชาวอโศก"
จะว่าไปแล้ว ชื่อหมูชื่อแมว ไม่ใช่เรื่องสำคัญอันใด ควรพิจารณาคนจากการทำงาน ซึ่งในความเป็นสื่อมวลชนเพื่อสังคม ตายแน่ก็มีความมุ่งมั่นที่จะเสาะหาความจริงมาตีแผ่ให้สังคมส่วนใหญ่ได้รับทราบ
แม้วันนี้ เขาต้องสิ้นอิสรภาพอยู่ในเรือนจำ แต่มิอาจดับไฟฝันของการเป็นคนข่าวเพื่อสังคมอุดมธรรมของชาวอโศก
เมื่อเขารู้สติว่าต้อง "ตายแน่" และเลือกที่จะ "มุ่งมาจน"...คุกขัง มันก็เป็นเรื่องเล็กน้อย