บรรยากาศเริ่มมาคุเมื่อทุกคนนั่งลงเผชิญหน้า แล้วใหญ่บอกอัจจิมาว่าเธอต้องเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ปีใหม่
"อ้าว ก็ไหนแกว่าจะให้ฉันมาช่วยจัดงานให้แม่ไง แล้วไหนล่ะแม่แก"
"แม่ตัวจริงติดหิมะอยู่ที่อังกฤษ บินกลับมาไม่ได้ เหลือแต่แม่ทูนหัวนี่ไง" ใหญ่โอบกอดปีใหม่ซึ่งยิ้มกว้างรับตำแหน่งแต่โดยดี
"ถ้างั้นเรื่องที่แกจะเลี้ยงแซยิดให้แม่..."
"ก็ถ้าฉันไม่ยกเหตุผลนี้มาอ้าง แกจะยอมทิ้งวัวทิ้งหญ้ามางานนี้เหรอ"
"แต่ถ้าคุณจี๊ดไม่สะดวกใจก็ไม่เป็นไรนะคะ แค่มีเพื่อนสนิทที่สุดของเราสองคนมาร่วมงาน เราก็ดีใจแล้ว" ปีใหม่เอ่ยด้วยไมตรี แต่อัคนีได้ทีฮุกเข้าใส่อัจจิมาทันควัน
"ไม่ใช่ไม่สะดวกใจหรอกครับ แต่กลัว...คุณจี๊ดเขาขี้กลัวอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว"
"ฉันไม่เคยกลัวใคร...ตกลงค่ะคุณปีใหม่ ฉันจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้คุณ"
"ในเมื่อทุกอย่างจบลงด้วยดีแล้วเรามาฉลองกันหน่อยนะครับ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง" พฤกษ์แทรกขึ้นมา...อัคนีมองหมั่นไส้ ถามอย่างข้องใจว่า
"ตกลงนี่คุณเป็นญาติทางฝ่ายเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวครับเนี่ย"
"ไม่ใช่ญาติฝ่ายไหนทั้งนั้นจ้ะ พฤกษ์เป็นเพื่อนฉันแล้วก็เป็นเจ้าของโรงแรมนี้ด้วย" ปีใหม่แนะนำด้วยรอยยิ้มสุดกว้าง
"ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับคุณจี๊ด คุณไฟ" พฤกษ์ค้อมศีรษะให้ทั้งคู่อย่างสุภาพ อัคนียิ่งเห็นท่าทีผู้ดีอังกฤษ ของพฤกษ์แล้วอารมณ์ยิ่งตุ่นขุ่นมัว
หลังจากละเลียดอาหารกันไปเรียบร้อยแล้ว พฤกษ์ก็เปิดไวน์แจกจ่ายทุกคนเพื่อดื่มฉลองให้กับความสุขของใหญ่และปีใหม่ที่ จะจัดขึ้นในวันมะรืนนี้
"เดี๋ยวก่อนค่ะ ไม่ใช่จะแต่งกันพรุ่งนี้เหรอ" อัจจิมา เบรกขึ้นกลางวงจนทุกคนถือแก้วไวน์ชะงัก
"พรุ่งนี้มันงานเลี้ยงสละโสด นี่แกกลับบ้านช้าสักวันสองวันวัวแกคงไม่เปลี่ยนมาร้องจี๊ดๆๆๆหรอกน่า" ใหญ่ทำหน้าเซ็งๆ อัคนีไม่สนใจชวนทุกคนดื่มได้แล้ว แต่พอยกแก้วไวน์จ่อจะถึงปาก ก็มีอันต้องค้างกลางอากาศกันอีกครั้ง เมื่ออัจจิมามีคำถามขึ้นมาอีก
"แล้วใครเป็นคนจัดงานเลี้ยงให้แก อย่าบอกนะว่าเป็นฉันน่ะ"
"ไม่ใช่ค่ะ เพื่อนใหญ่ที่ชื่อลิซ่าเป็นคนจัดการค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็จะบินมาที่นี่" ปีใหม่ชี้แจง
"หมดเรื่องสงสัยแล้วใช่มั้ย ถ้างั้นเราดื่มกันเลยครับ... ดื่ม" อัคนีเชิญชวน ทุกคนจึงยื่นแก้วจะเข้ามาชนกันตรงกลาง แต่แล้วอัจจิมาก็ร้องจ๊ากขึ้นอีก คราวนี้ทุกคนเลยประสานเสียงโดยพร้อมเพรียงกันด้วยความหงุดหงิดรำคาญ
"อะไรอีก"
"เอ่อ...คือ...อยากขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนน่ะค่ะ เชิญดื่มกันไปก่อนนะคะ เดี๋ยวจี๊ดกลับมาดื่มฉลองให้ทีหลังค่ะ" อัจจิมา ยิ้มแหยๆให้ทุกคนก่อนเดินออกไป ใหญ่กับปีใหม่แอบขำ ในขณะที่พฤกษ์อมยิ้มชอบใจในความใสโก๊ะไร้ซึ่งมารยาของหญิงสาว อัคนีเองก็ขำๆ แต่พอหันมาเห็นสายตาพฤกษ์ที่มองตามอัจจิมาไปก็พาลหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ooooooo
ขณะที่อัจจิมาไปกระบี่ ศิลาก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯตามคำชวนของไกรภพ โดยมีสองสมุนคู่ใจติดตามมาด้วย ก่อนหน้านี้ไกรภพไปเห็นบ่อนเล็กๆของศิลา จึงชวนมาดูบ่อนใหญ่ๆของเฮียหมู ซึ่งตัวเขาเองเป็นหนี้อยู่จำนวนมาก แต่สร้างภาพว่าเป็นเศรษฐีเพื่อหวังฮุบที่ดินของฟาร์มพศวัต ยิ่งพอได้ไปเจอะเจออัจจิมาน้องสาวของศิลาเข้า ไกรภพก็ยิ่งหมายมั่นปั้นมือว่างานนี้เขาต้องได้ทั้งที่ดินและตัวอัจจิมา
ศิลาเห็นความโก้หรูที่ฉาบไว้ของไกรภพก็ตกหลุมพรางเขาทันที กอปรกับนิสัยนักเลงของตัวเอง ชอบนัก เรื่องการพนัน ศิลาเลยทุ่มไม่ยั้งจนเป็นที่ถูกใจของเฮียหมู ถึงขนาดเรียกไกรภพมาคุยกันลับหลังสองต่อสอง
"ลูกค้าใหม่ของลื้อมือหนักไม่เบา"
"ครับ"
"ขอบใจนะ"
"ส่วนหนี้ที่ผมติดเฮีย ผมจะรีบใช้คืนให้เร็วๆนี้ ผมพอมีลู่ทางแล้ว"
"ไม่เป็นไร ไม่รีบ" ปากเฮียหมูว่าไม่เป็นไรแต่มือขยับปืนที่เอว จนไกรภพรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว
ooooooo
กลับเข้ามานั่งร่วมโต๊ะดินเนอร์ อัจจิมาส่งเสียงเจื้อยแจ้วอารมณ์ดีเป็นพิเศษ โดยที่ใหญ่ยืนคุยโทรศัพท์ ห่างออกไป
"ตอนแรกที่นายใหญ่เขาบอกให้จี๊ดช่วยจัดงานให้ จี๊ดก็ขับรถเข้ากรุงเทพฯไปเดินซื้อหนังสือเกี่ยวกับการจัดงานปาร์ตี้มาอ่านๆๆ จนมันอยู่ในหัวหมดแล้วค่ะว่าจะทำอะไรยังไงบ้าง นี่ถ้านายใหญ่ไม่ได้ติดต่อคุณลิซ่าไว้ จี๊ดก็จะขออวดฝีมือให้ดูสักตั้ง"
"แกได้แสดงฝีมือแน่ยายจี๊ด" เสียงใหญ่แทรกขึ้นมา ทำเอาอัจจิมาแทบร้องจ๊าก "ลิซ่าโทร.มาบอกว่ารถถูกชน หมอต้องเข้าเฝือกที่ขาให้ พรุ่งนี้คงมาที่นี่ไม่ได้แน่ๆ"
"ถ้างั้นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณจี๊ดด้วยนะครับ ที่จะได้แสดงฝีมือจัดงานอันเลิศหรูอลังการยอยศยิ่งฟ้าให้ประจักษ์ต่อสายตาทุกคน"
"โดยมีนายเป็นผู้ช่วย"
"เฮ้ย!" อัคนีร้องลั่นใส่เพื่อนสาว
"หรือนายจะปฏิเสธ นายจะปล่อยให้เพื่อนเจ้าสาวทำงานอยู่คนเดียว โดยที่เพื่อนเจ้าบ่าวนอนสปาอโรมาเทอราปี้อยู่ในโรงแรมงั้นเหรอ"
"ช่างเขาเถอะค่ะ เอาเป็นว่าฉันรับปากจะจัดงานนี้ให้เอง เพราะคนหยาบกระด้างไร้น้ำใจอย่างหมอนี่คงทำอะไรโรแมนติกกับใครเขาไม่เป็นหรอกค่ะ"
"ถ้างั้นผมช่วยคุณจี๊ดเต็มที่ ต้องการลูกมือกี่คนบอกได้นะครับ ไม่ต้องเกรงใจ" พฤกษ์เสนอตัวทันที
"คงไม่ต้องใช้ลูกมือหรอกครับ เพราะผมจะช่วยเอง ทุกคนจะได้รู้ว่าผมไม่ได้หยาบกระด้างไร้น้ำใจ แล้วก็โรแมนติกเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด"
อัคนีกล่าวหนักแน่นเด็ดเดี่ยวจนทุกคนพากันงงงวย แล้วหลังจากนั้น ผู้จัดงานสาวสวยกับผู้ช่วยหนุ่มหล่อก็แยกตัวไปวางแผนแสดงไอเดียกันตามลำพัง ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายมุมหนึ่งของโรงแรม
อัจจิมาขำก๊ากกับไอเดียของอัคนีที่จะจัดสไตล์คาวบอย ถามเขาว่ามันโรแมนติกตรงไหนไม่ทราบ อัคนีเลยย้อนเข้าให้ว่า แล้วธีมลิตเติ้ลเมอร์เมดของเธอเก๋ตายล่ะ?
"แค่คิดว่าจะขนวัวขนม้ามายังไงก็วุ่นวายแล้ว"
"ลืมไปแล้วเหรอว่าอัศวินของเธอขี่ม้าขาว"
"ให้นุ่งยีนส์ ใส่เสื้อแขนยาว สวมหมวกริมทะเล คิดได้ไง ร้อนตายชัก"
"แล้วไอ้ชุดเจ้าชายกับนางเงือกที่จะให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวใส่มันไม่ตับแลบหนักกว่าเหรอ ไหนจะชุดกุ้งหอยปูปลาที่เพื่อนๆต้องช่วยกันใส่อีก ได้เป็นลมกันก่อนงานเริ่มแน่"
"จัดที่ทะเล ธีมมันก็ต้องเป็นทะเล" อัจจิมาเริ่มมีอารมณ์
"โบราณ...เขายกทะเลขึ้นไปจัดบนเขากันตั้งเยอะแยะ แล้วมันจะแปลกอะไรถ้าจะย้ายของที่อยู่บนเขามาจัดที่ทะเล"
"ไม่แปลกแต่ไม่ชอบ"
"ฉันชอบ"
"แต่ฉันไม่ชอบ"
แล้วต่างคนต่างก็ส่งเสียงตอบโต้กันไปมา จนกระทั่งอัจจิมาตะโกนใส่หูอัคนีดังลั่น ฝรั่งสามีภรรยาหลายคู่ที่ออกมาดื่มด่ำธรรมชาติอยู่แถวนั้นต่างพากันหันมามอง ทั้งคู่อย่างตกใจ ยิ่งเห็นฝ่ายชายเอามืออุดหูเพราะแก้วหูแทบระเบิด ยิ่งคิดว่าชายหนุ่มถูกหญิงสาวทำร้าย อัจจิมาเหลียวซ้ายแลขวาหน้าตาแหยๆ อายแทบแทรกแผ่นดินรีบหนีไปทันที
อัจจิมาพุ่งมากดลิฟต์แล้วก้าวเข้าไปยืนข้างใน และก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิด อัคนีก็เบียดตัวแทรกเข้ามายืนข้างๆ หญิงสาวเบี่ยงตัวหนี โดยขยับยืนหันหลังให้เป็นการแสดงให้เห็นจะจะว่าเหม็นขี้หน้าอย่างแรง อัคนีเจ็บหนึบ พยายามกัดฟันเรียกหญิงสาว แต่เรียกสองสามครั้งเธอก็ยังไม่หันมามอง เลยต้องเอามือสะกิดสีข้าง คราวนี้เธอหันมาว้ากใส่เขาทันที
"อะไรอีกล่ะ ฉันว่าคืนนี้เราเลิกทะเลาะกันดีกว่า นายกลับไปนอนตีลังกาให้เลือดไปเลี้ยงสมองก่อน แล้วค่อยมาบอกฉันพรุ่งนี้ก็ได้ว่าไอเดียของนายมันห่วยแตกแค่ไหน"
"เรื่องนั้น พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน แต่เรื่องนี้ต้องว่ากันเดี๋ยวนี้"
"ยังมีเรื่องอะไรต้องพูดกันอีก"
"ก็เรื่องที่เธอเหยียบเท้าฉันอยู่น่ะสิ เอาออกไปสักที เล็บยิ่งขบอยู่ด้วย"
อัจจิมาก้มลงมองที่เท้า ก็พบว่าจริงดังเขาว่า เธอรีบถอนเท้าออกมา แล้วตีหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ พอลิฟต์เปิดก็รีบเดินออกมา อัคนีก้าวตามหลัง
"ตามมาทำไม จะให้ฉันขอโทษงั้นเหรอ ไม่มีทาง นายอยากมายืนให้ฉันเหยียบเอง ช่วยไม่ได้"
ว่าแล้วเธอเดินต่อ ในขณะที่อัคนีไม่ต่อปากต่อคำ ได้แต่เดินตาม จนเธอหันมามองอีกครั้ง
"เอ๊ะ บอกแล้วไงว่าไม่ขอโทษ ได้ยินมั้ย จะไปไหนก็ไป"
อัคนีไม่พูดอะไรสักคำ ยังคงเดินตามหลังเธอต่อไป อัจจิมาหันขวับกลับมาอีกอย่างหมดความอดทน
"ทำไมนายไม่กลับห้อง หรือว่านายจะแก้แค้นฉัน ตามมาลวนลามฉัน" คิดดังนั้นแล้วเธอรีบจ้ำหนี แต่เมื่อหันมาเห็นอัคนีจ้ำตามก็เริ่มกลัวว่าชายหนุ่มจะเข้ามาทำมิดีมิร้าย หญิงสาววิ่งมาถึงประตูห้อง กำลังจะเปิดเข้าไป แต่อัคนีคว้ามือเธอไว้
"นายจะทำอะไร นายไฟ"
อัคนีจับข้อมือทั้งสองข้างของอัจจิมาแนบบานประตูแน่น แล้วแสยะยิ้มน่ากลัว ก่อนจะเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนปากแทบจะแตะกัน อัจจิมาหลับตาปี๋ด้วยความสยองก่อนจะพลิกหน้าบิดซ้ายบิดขวาราวโดนใครบดขยี้ ปากอย่างรุนแรง
"คุณจี๊ดเป็นอะไรคะ" เสียงของปีใหม่ทำให้อัจจิมาสะดุ้งลืมตาโพลง อัคนีซึ่งยืนอยู่หน้าประตูฝั่งตรงกันข้ามแอบแขวะหญิงสาวอย่างขำๆ
"สงสัยคงละเมอคิดว่าใครมาปล้ำมั้งครับ"
"แล้วนายตามฉันมาทำไม" อัจจิมาถามเสียงเขียว
"อ๊ะ ก็ห้องฉันอยู่นี่แล้วจะให้มาทางไหน ปีนบันไดลิงมางั้นเหรอ"
"แต่เมื่อกี้นายไม่ได้จะเข้าห้องนาย แต่นายตรงมาหาฉัน"
"ถูก ก็ฉันเห็นเธอทำการ์ดหล่นที่พื้น ฉันก็อุตส่าห์เก็บมาคืนให้ นี่ไง เฮ้อ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ" อัคนียื่นการ์ดสำหรับเปิดประตูห้องคืนให้ อัจจิมาดึงการ์ดกลับคืนมาอย่างเสียไม่ได้
"นอนพักผ่อนมากๆล่ะแก สงสัยจะนอนน้อยหรือไม่ก็กินมากไปถึงได้หลอนยังนี้ เอ้า ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันพาปีใหม่ ไปพักล่ะนะ พรุ่งนี้เจอกัน" ใหญ่พูดจบก็โอบเอวปีใหม่กลับออกไป
"เฮ้อ คิดเข้าไปได้ อดิศวรอย่างฉันจะพิศวาสพศวัตอย่างเธอ ช่างกล้า" อัคนีพูดลอยๆ อมยิ้มกวนๆ แต่พอถูกเธอศอกกลับก็ถึงกับหงอยไปเลย
"อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย พศวัตอย่างฉันก็ไม่มีวันชายตามองอดิศวรอย่างนายอยู่แล้ว ต่อให้ผู้ชายทั้งโลกเหลือแค่นายคนเดียว ฉันก็ไม่มอง ไม่มีวัน!"
ooooooo
เช้าแล้ว ศิลาเดินสะโหลสะเหลเข้ามาในบ้าน พิศาลลดหนังสือพิมพ์ในมือลง ทักถามลูกชายด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจนักว่า
"หายหัวไปไหนมาเจ้าศิลา ถึงได้กลับเอายันเช้า"
"ผม...ผมไปติดต่อลูกค้าให้ยายจี๊ดที่กรุงเทพฯน่ะครับ พอดีไปเจอคุณไกรภพ เขาชวนผมไปค้างที่บ้านเขา ผมก็เลยไป...ถือโอกาสทำงานให้พ่อด้วยไง"
"งานอะไร"
"อ้าว ก็งานสืบประวัติลูกค้าไงพ่อ คุณไกรภพเขามาซื้อที่เรา มีโอกาสเราก็ต้องไปสืบหน่อยล่ะว่าบ้านช่องเขาเป็นยังไง มีฐานะจริงรึเปล่า"
"แล้วเป็นไง"
"โคตรรวยเลยพ่อ บ้านใหญ่ยังกับวัง แถมมีคนใช้เป็นสิบ นี่ถ้าเรามัดเขาเป็นเขยได้ล่ะก็ รับรองเรามีกินมีใช้ไปอีกสิบชาติก็ไม่หมด ไม่ต้องไปเสียเหงื่อเก็บขี้วัวเป็นจับกังเหมือนอย่างไอ้พวกอดิศวรด้วย"
ศิลาพูดไปแอบเหล่ดูปฏิกิริยาพ่อไป พิศาลเอามือลูบคาง ท่าทางคล้อยตาม นึกไปถึงวันที่ตัวเองจะได้หยามเหยียดพวกอดิศวรให้จมดิน...
ที่สวนกุหลาบของสุพรรษา สี่คนพ่อแม่ลูกกำลังพูดคุยกันเรื่องจะจัดงานฉลองวันขึ้นปีใหม่ ปฐพีจาระไนว่านอกจากอาหารแล้ว ก็มีประกวดร้องเพลง ประกวดเต้นหางเครื่อง และอาจจะมีฉายหนังกลางแปลง วายุภัคพยักหน้าก่อนจะบ่นเสียดายที่อัคนีไม่อยู่ ไม่งั้นได้คว้าตำแหน่งดาวรุ่งเสียงโทรมกับดาวเต้นแร้งเต้นกาไปครองอีกแน่ๆ เหมือนทุกปี
"แต่ตำแหน่งนกเขาคู่รักแห่งปี คงหนีไม่พ้นพ่อกับแม่ จริงมั้ยจ๊ะที่รัก" มนตรียิ้มชื่นเข้าหาเมียรัก
"ก็แหงล่ะ ในเมื่อมีแต่พ่อกับแม่เท่านั้นที่ร้องเพลงนี้ได้" ปฐพีกระเซ้า
"เพราะพวกแกมัวแต่ไปฟังเพลงอัลเธอร์ เพลงร็อก เพลงแร็พอยู่น่ะสิ เลยไม่มีใครใส่ใจเพลงเก่าที่เนื้อหาลึกซึ้งกินใจแบบนี้ ว่ามั้ยจ๊ะแม่"
พูดขาดคำ มนตรีก็โก่งคอร้องเพลงรักหวานซึ้งเมื่อสมัยตัวเองยังหนุ่มๆ สุพรรษาเองก็ครึ้มอกครึ้มใจผลัดกันร้องไปคนละท่อนประสาเพลงคู่ พร้อมวาดลีลาราวกับถ่ายมิวสิกวีดิโอก็ไม่ปาน
ขณะเดียวกันนั้นที่โรงแรมหรูจังหวัดกระบี่ อัคนีก็กำลังร้องเพลงเดียวกันนี้ให้อัจจิมาฟัง แต่กลับไม่ถูกใจเธออย่างแรง ถึงกับตะเบ็งแข่งขึ้นมา
"หยุดได้แล้ว ฉันอุตส่าห์ให้เวลานายไปนอนตีลังกาคิด แต่เลือดมันไม่ได้ลงไปเลี้ยงสมองนายเลยใช่มั้ย นายถึงไม่เก็ตว่าไอเดียนายมันไม่เวิร์ก มันแป้ก ทั้งรูปแบบแล้วก็ไอ้เพลงที่นายจะให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวร้องนี่ด้วย"
"แต่มันเป็นเพลงที่พ่อกับแม่ฉันร้องในวันแต่งงาน แล้วก็เอามาร้องในวันเกิด วันครบรอบแต่งงาน วันปีใหม่ วันหยุดนักขัตฤกษ์ รวมไปจนถึงวันพระวันโกนด้วย"
"แล้วไง"
"มันเป็นเพลงของครอบครัวฉัน"
"แล้วไง"
"อ้อ...ฉันลืมคิดไป คนไม่มีแม่จะซาบซึ้งกับคำว่าครอบครัวได้ยังไง"
อัจจิมาชะงักกึก จุกเสียดไปทั้งใจ "ใช่ ฉันไม่มีแม่ ที่สำคัญฉันทำให้แม่ฉันต้องตายด้วย"
"เธอพูดอะไร" อัคนีชะงัก
"แม่คลอดฉันแล้วท่านก็ตาย ท่านตายเพราะฉัน เป็นไง สมใจนายใช่มั้ยที่รู้ว่าฉันขาดในสิ่งที่นายมี"
อัคนีจ๋อยสนิท ไม่มีเจตนาจะสะกิดแผลให้หญิงสาวเสียใจเลยแม้แต่น้อย พอเขาจะเอ่ยปากว่าไม่ได้ตั้งใจ เธอกลับสวนขึ้นมาเสียงสั่นๆ
"ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ฉันรู้ว่านายสะใจแค่ไหนที่ทำให้ใครในพศวัตเสียใจได้ ต่อไปนี้ฉันจะไม่มีวันอ่อนแอให้นายเห็นอีกเป็นอันขาด...แล้วตกลงจะเอายังไง เรื่องงานเย็นนี้ จะทำไม่ทำ"
"ปีใหม่มันเพื่อนรักฉัน จะไม่ช่วยเพื่อนได้ไงล่ะ เอางี้ ทำสลากขึ้นมาสี่อัน เขียนชื่อฉันกับเธออย่างละสอง แล้วผลัดกันจับ จับชื่อใครได้มากกว่ากัน ทำตามไอเดียคนนั้น ตกลงมั้ย"
"ก็ได้ งั้นให้ฉันเป็นคนเขียนสลาก"
"ไม่ได้ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเธอจะไม่โกงฉัน เป่ายิงฉุบ ใครชนะเป็นคนเขียน"
ทั้งคู่เป่ายิงฉุบกันสองสามครั้ง ปรากฏว่าอัคนีเป็นฝ่ายชนะร้องโชโย อัจจิมาถึงกับหน้าม้าน ชายตามองเขาอย่างหมั่นไส้สุดๆ
ถึงตอนเขียนสลากอยากแก้ตัวที่พลั้งปากเรื่องครอบครัวทำให้เธอเสียใจ อัคนีเขียนชื่ออัจจิมาทั้งสี่อัน แล้วผลัดกันจับตามกติกาโดยที่อัจจิมาไม่รู้ พอเห็นเธอยิ้มแย้มดีใจมากๆที่ตัวเองชนะได้ผู้นำในการจัดงานปาร์ตี้สละโสดของใหญ่กับปีใหม่ อัคนีก็แอบอมยิ้มสุขใจ
ooooooo
หลังจากเมื่อวันก่อนกรุยทางเอาไว้แล้ว สายวันนี้ไกรภพจึงมาพบพิศาลถึงบ้านอีกครั้ง เจรจาอย่างเป็นการเป็นงานว่า
"ผมเองก็ไม่ได้อยากจะเร่งรัดคุณอานะครับ แต่แบงก์ที่สนใจโปรเจกต์นี้อยากจะเห็นโครงการรีสอร์ตของผมเร็วๆ ผมเล็งแล้วว่าทำเลซึ่งเป็นที่ดินของคุณอาเหมาะที่สุดที่จะทำโครงการนี้"
"พอดีช่วงนี้ยายจี๊ดก็ไม่อยู่ซะด้วย แล้วที่ดินตรงนั้นยายจี๊ดมันก็ดันไปอนุญาตให้พวกชาวบ้านที่ไม่มีบ้านมาปลูกเพิงซุกหัวนอนกันด้วย"
"เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอกครับ ตราบใดที่ที่ดินผืนนั้น เป็นชื่อของคุณอา เราจะเชิญพวกนั้นออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ ปัญหามันอยู่ที่ว่าคุณอาอยากขายรึเปล่าเท่านั้น"
"ไม่ต้องไปรอยายจี๊ดหรอกพ่อ ที่ดินเรามีตั้งสองสามแปลง ขายสักแปลงจะเป็นไรไป อีกอย่างคุณไกรภพก็ให้ราคาสูงจะตายไปพ่อ" ศิลาเชียร์สุดตัว แต่พิศาลยังนิ่งคิดอย่างลังเล ไกรภพจึงวางหมากต่อ
"ถ้าเรื่องที่ดินไม่มีอะไรติดขัด ผมก็อยากจะชวนคุณอากับครอบครัวเข้าหุ้นทำรีสอร์ตกับผมด้วย"
สองพ่อลูกสบตากันโดยมิได้นัดหมาย นึกไม่ถึงว่าจู่ๆบุญก็หล่นทับเข้าให้
"แล้วพ่อไกรจะจัดการกับไอ้พวกกาฝากที่มันมาอาศัยที่ดินอายังไง"
ไกรภพยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะคำถามของพิศาลเป็นคำตอบ ที่บ่งชัดว่าตกลง
ooooooo
ถึงเวลาลงมือ อัจจิมาประดิดประดอยตัดริบบิ้นหลากสีอย่างตั้งอกตั้งใจ ในขณะที่มุมหนึ่งอัคนีนั่งตัดกระดาษเป็นรูปหัวใจอย่างเซ็งๆ
"ไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องมานั่งทำอะไรหวานแหววแต๋วจ๋าอยู่ตรงนี้ เฮ้อ เอาเวลาไปเก็บขี้วัวยังจะมีประโยชน์ซะกว่า"
"ฉันไม่ทู่ซี้ทำธีมลิตเติ้ลเมอร์เมดให้นายต้องแต่งตัวเป็นแมงดาทะเลก็ดีเท่าไหร่แล้ว ให้ตัดกระดาษแค่นี้ทำบ่น"
"แซนด์วิชกับน้ำส้มจ้ะ รองท้องก่อนจะถึงมื้อกลางวัน" พฤกษ์ปากหวานเข้ามาพร้อมของว่างในมือ
"ขอบคุณค่ะ ทำไมคุณพฤกษ์ไม่ให้เด็กเอามาให้คะ มาเสิร์ฟเองอย่างนี้ เกรงใจจังค่ะ"
"ไม่เป็นไร พอดีผมเพิ่งประชุมวางแผนจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับพนักงานเสร็จ พอมีเวลาว่างสองสามชั่วโมง ก็เลยแวะมาดูคุณจี๊ด เผื่อจะมีอะไรให้ช่วย"
"มีแต่งานจุกจิกจุ๋มจิ๋มของผู้หญิง ไม่มีอะไรเหมาะกับแมนๆอย่างเราหรอกครับ" อัคนีโพล่งขึ้น
"ให้ผมช่วยนะ" พฤกษ์กรีดนิ้วหยิบริบบิ้นมาร้อยใส่กระดาษรูปหัวใจแล้วผูกเป็นโบว์อย่างแคล่วคล่อง
"โอ้โฮ นี่คุณพฤกษ์ผูกโบว์ได้เนี้ยบกว่าจี๊ดซะอีกนะคะเนี่ย" อัจจิมามองพฤกษ์ที่ส่งยิ้มให้เธออย่างอบอุ่นด้วยความชื่นชม อัคนีแอบสังเกตเห็นท่านั่งพับเพียบเรียบแต้ รวมไปถึงมือที่กรีดไปมา ตลอดจนท่าทางที่ดูนุ่มนิ่มของพฤกษ์ แล้วแอบฟันธงในใจว่า "ไอ้นี่...ตุ๊ดชัวร์"
เมื่อเตรียมวัสดุอุปกรณ์เสร็จแล้ว ทั้งสามคนช่วยกัน ขนย้ายออกไปยังชายหาดซึ่งเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ จากนั้นก็ช่วยกันตกแต่งอย่างเร่งรีบเพราะแดดค่อนข้างแรง พฤกษ์เห็นอัคนีเหงื่อไหลไคลย้อยก็รีบนำผ้าเช็ดหน้ามายื่นให้ ห้ามไม่ให้เขาใช้มือปาดเหงื่อ เดี๋ยวหน้าจะเป็นสิว พอเห็นอัคนีจับไม่ถนัด พฤกษ์รีบจัดแจงเช็ดให้เอง ทำเอาอัคนีผวาเฮือกไม่อยากอยู่ใกล้ ผิดกับอัจจิมาที่กล่าวชื่นชมพฤกษ์ว่า คุณช่างมีน้ำใจจริงๆ
เมื่องานเสร็จเรียบร้อย ทั้งอัจจิมาและอัคนีก็แย่งกัน ไปเอาความดีความชอบใส่ตัวเอง ปรากฏว่าทั้งคู่ต้องตะลึง พรึงเพริด เมื่อพบว่าพี่หนูต่อนั่งประจ๋อประแจ๋อยู่ในห้องกับใหญ่และปีใหม่ด้วย
"อ๊าย...น้องหนูจี๊ด น้องไฟ มาอยู่ที่นี่ด้วยกันได้ยังไงคะเนี่ย" พี่หนูต่อกรีดเสียงกะเทยแปดหลอด
"พี่หนูต่อ! คือ...มันเป็นความซวย เอ๊ย ความบังเอิญน่ะค่ะ จี๊ดเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว"
"ส่วนผมก็เป็นเพื่อนเจ้าสาว"
"ถ้างั้นชุดที่ไปตัดกันที่ร้านพี่หนูต่อก็เพื่อจะเอามาใส่งานนี้สิคะ ว้าว...งานนี้พี่หนูต่อฟาดเรียบตั้งแต่ชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว"
"รวมทั้งชุดเพื่อนสนิทอีกสิบห้าคนที่จะมางานปาร์ตี้คืนนี้ด้วย ตกลงนี่รู้จักกันมาก่อนแล้วใช่มั้ย" ใหญ่หน้าตาอยากรู้มาก อัจจิมาไม่ตอบ กลับย้อนถามเขาว่า นายรู้จักพี่หนูต่อได้ยังไง "ก็ตั้งแต่ตอนไปเรียนที่ฝรั่งเศส"
"ใช่ ตอนนั้นพี่หนูต่อไปเรียนออกแบบที่นั่น แล้วก็มาแอบปิ๊งพ่อกล้ามล่ำนี่ ทำตลกจีบยังไงเขาก็ไม่สน มารู้ทีหลังว่าที่เขาไม่สนก็เพราะเขามีคุณนายปีใหม่แล้วนี่เอง ดีนะ ที่คุณนายเขาเคมีเข้ากับพี่หนูต่อได้ ไม่งั้นมีตบค่ะ แต่มาคราวนี้ พี่หนูต่อก็คงอกเดาะตามเคย เฮ้อ"
"ทำไมครับ พี่หนูต่อไปหลงรักใครอีกล่ะ" อัคนีแซว ทันที
"ไม่ต้องมาพูดดีเลย คนเขาแอบรักแอบชอบแล้วยังไม่รู้ตัวอีก" พี่หนูต่อทำงอนหน้าง้ำ ปีใหม่สงสัยว่าเจ๊จะอกเดาะเพราะใคร หรือว่านายไฟมีแฟนแล้ว เธอคือใคร? "ก็น้องหนูจี๊ดไงคะ"
"ไม่จริงงงงงง...." อัจจิมาและอัคนีประสานเสียงโต้พี่หนูต่อคอเป็นเอ็น "เราเกลียดขี้หน้ากันจนจะฆ่ากันตายอยู่แล้วนะพี่หนูต่อ"
"พี่หนูต่อก็เห็นอย่างนี้ทุกราย แรกๆก็เกลียดกันยิ่งกว่าอุจจาระ ไปๆมาๆก็รักกัน ขอโทษนะคะ ปานจะแหกทวารดมน่ะค่ะ"
"ใช่ เหมือนเราสองคนไง จริงมั้ยจ๊ะที่รัก" ใหญ่โอบกระชับปีใหม่เข้ามาในอ้อมกอด อัคนีกับอัจจิมาหันมามองกัน ต่างคนต่างก็ทำท่าเหม็นขี้หน้าใส่กันก่อนจะสะบัดหน้าหนีกันสุดฤทธิ์
ooooooo
ที่ฟาร์มพศวัต ศิลาซึ่งอยากขายที่ดินให้ไกรภพ จนตัวซีดตัวสั่น เขาเพิ่งจะโน้มน้าวพ่อไปเมื่อสายๆ ตกตอนเย็นก็มาบอกพ่อว่าไกรภพจะพาทนายมาตกลงเรื่องสัญญาซื้อขายกับเราพรุ่งนี้
"เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ ใจจริงพ่ออยากรอยายจี๊ดก่อน อีกไม่กี่วันน้องมันก็จะกลับแล้ว"
"เขาเอาเงินมากองตรงหน้าเราจะไม่รีบคว้าไว้เหรอพ่อ ถ้าเราไม่ขาย เขาก็อาจจะเปลี่ยนใจไปซื้อที่คนอื่น เศรษฐีร้อยล้านอย่างเขาไม่จำเป็นต้องง้อเราอยู่แล้ว อีกอย่างถ้ารอยายจี๊ดกลับมา มันก็ต้องยกเหตุผลโน่นนี่มาอ้างจนพ่อใจอ่อนไม่ยอมขาย สุดท้ายเราก็อาจจะเสียที่ให้รัฐเอาไปตัดทำถนนฟรีๆ ที่สำคัญที่สุด การที่จะได้เป็นหุ้นส่วนคุณไกรภพมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะพ่อ ในเมื่อโอกาสมันลอยอยู่ตรงหน้า ถ้าเราไม่คว้าเอาไว้ก็โง่บรมโง่เลยล่ะ"
"พรุ่งนี้ให้เขามาหาพ่อที่บ้านก่อนเที่ยงก็แล้วกัน"
"ครับพ่อ"
พิศาลเดินกลับเข้าไปทำงาน ศิลายิ้มผยอง ฝันหวานที่จะมีเงินล้านไปเข้าบ่อนเฮียหมู
ooooooo
บรรยากาศยามโพล้เพล้สุดแสนโรแมนติก งานปาร์ตี้สละโสดซึ่งจัดขึ้นที่ชายหาดกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว โดยมีพี่หนูต่อทำหน้าที่พิธีกรวี้ดว้ายกระตู้วู้เชิญสมาชิกกว่าสิบชีวิตปรบมือเปิดงาน และเชิญดื่มกินดีดดิ้นกันตามสะดวก งานนี้ไม่มีเม้ม
อัคนีชำเลืองมองพฤกษ์เอาอกเอาใจอัจจิมาที่แต่งตัวสวยหวานน่ารักสุดๆอย่างหมั่นไส้ โดยมีสายตาของพี่หนูต่อจ้องจับผิดอยู่ตลอดเวลา กระทั่งอัจจิมาควงแขนพฤกษ์เข้าไปกลางงาน อัคนีทนไม่ไหวถึงกับหลุดปากออกมาว่า
"ผู้ชายอะไรพูดคะพูดขา พี่หนูต่อว่าไอ้คุณพฤกษ์นี่มันเป็นตุ๊ดรึเปล่า"
"ปกติผีมักจะเห็นผีนะคะ แต่กับคุณพฤกษ์นี่ยังการันตีไม่ได้ เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ค่ะ สถาบันกะเทยไทยไม่ชอบให้ใครทำตัวคลุมเครือแบบนี้อยู่แล้ว"
ว่าแล้วทั้งคู่ก็พากันไปแอบดู หมายมั่นปั้นมือว่ายังไงก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าพฤกษ์เป็นชายจริงหรือหญิงเทียม
"ดูจากวิธีตักอาหารใส่จานจะเห็นว่านิ้วก้อยกางออกมา และกระดกขึ้นเล็กน้อย แต่องศามันยังไม่มากพอที่จะแกรันตี ได้ว่าแอ๊บแมนรึเปล่า น่าจะ 50/50 นะคะ"
เห็นพฤกษ์เอามือเหน็บผมซึ่งตกลงมาปรกหน้าผาก พี่หนูต่อตกใจถึงกับยกมือทาบอก
"อ๊าย...มีเหน็บผมทัดหูด้วยอ่ะ"
"ออกอาการเห็นๆเลยใช่มั้ยครับ" อัคนีรุกใหญ่
"อาการน่ะใช่ แต่เอ...วิธีการเหน็บมันก็ดูแมนนะคะ อ๊าย...แต่ดูตอนซับปากสิ กรีดนิ้วแตะเล็กแตะน้อยที่มุมปากอย่างนี้ มันกะเทยเทิร์นโปรชัดๆ"
"กะเทยชัวร์"
"พี่หนูต่อยังไม่กล้าการันตีค่ะ เพราะดูสิคะ เวลาผายมือให้น้องหนูจี๊ดก็ดูเข้มมั่กมาก เข้มจนพี่หนูต่อพลอยสยิวไปด้วย"
"เอาไงกันแน่พี่หนูต่อ"
"มันยังการันตีไม่ได้ 100% ค่า รายนี้ถ้าเป็นก็นับว่า แอ๊บเนียน ยังไงพี่หนูต่อขอเวลาสังเกตการณ์อีกนี้ดนะคะ"
อัคนีเซ็งเป็ด ยิ่งหันไปเห็นอัจจิมายิ้มแย้มเริงร่าอยู่กับพฤกษ์ในกลุ่มเพื่อนๆยิ่งอารมณ์เสีย
"หน้าคว่ำอย่างนี้ กลัวน้องหนูจี๊ดจะหลุดมือใช่มั้ยล่ะ" พี่หนูต่อดักคออย่างรู้ทัน แต่ชายหนุ่มรีบปฏิเสธพัลวัน "ไม่ต้องมาปากแข็งกับพี่หนูต่อเลย เดี๋ยวพี่หนูต่อจัดให้ ถึงพี่หนูต่อจะเจ็บปวดรวดร้าวแค่ไหน พี่หนูต่อก็ทนได้เพื่อน้องไฟกับคนที่น้องไฟเลือก"
พูดจบพี่หนูต่อก็แร้นกายไปทางไมโครโฟน ประกาศว่าถึงเวลาแดนซ์กระจายแล้ว ขอเชิญบ่าวสาวมาเปิดฟลอร์ และถ้าจะให้จี๊ดจ๊าดก็ต้องมีเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวจับคู่กันออกมาด้วย
ปีใหม่กับใหญ่เริงร่าออกมาโยกย้ายไปตามจังหวะเพลง แต่อัจจิมากับอัคนียังยืนเฉยอยู่กับที่ จนพี่หนูต่อต้องตรงรี่เข้ามาหา
"ขัดใจเจ๊จริงๆ ที่นี่ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์มาดามทรูโซ่นะคะ จะได้มายืนนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งอย่างนี้"
"ผมเต้นไม่เป็น"
"จี๊ดก็เหมือนกัน"
"มันจะยากอะไรล่ะค้า...ก็แค่บิดมือ บิดแขน บิดตัว บิดสะโพกโยกไปโยกมาน่ะค่า" พี่หนูต่อไม่พูดเปล่า แต่ขยับท่าโยกย้ายส่ายสะโพกชนิดสุดสวิงแถมวาบหวิวให้ทั้งคู่ดู "ลองทำดูสิคะ ไม่ยากหรอก น้องไฟเป็นผู้ชายเริ่มก่อน อย่าให้เสียชื่ออดิศวรนะคะ"
พอพี่หนูต่อเอ่ยถึงนามสกุล อัคนีก็หึกเหิมขึ้นทันที ขยับเข้ามาเต้นกับพี่หนูต่อด้วยลีลาเอามันเข้าว่า
"ว้าว...ดิ้นได้ห้าวมาก แมนม้ากมาก เอ้า น้องจี๊ดเข้ามาแจมกับเราสิคะ"
"พวกพศวัตดีแต่ใช้กำลังทำร้ายคน มาทำอะไรที่เป็นงานศิลปะอย่างเราไม่ได้หรอกครับ ยืนนิ่งเป็นหุ่นอย่างนี้ล่ะดีแล้ว ขืนขยับเดี๋ยวเพื่อนๆจะคิดว่าเป็นไม้กวาดลอยไปลอยมา เสียอารมณ์เปล่าๆ"
"นายจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะ"
อัจจิมาของขึ้นออกมาวาดลวดลายไปทั่วฟลอร์ แถมยังใส่ลีลายั่วยวนอัคนีให้ออกมาปะทะกันอีกต่างหาก พี่หนูต่ออ้าปากหวอ ปีใหม่และใหญ่ รวมทั้งเพื่อนๆที่กำลังเต้นกัน อย่างเมามันเริ่มสะกิดกันเพื่อให้หยุดดูทั้งคู่ จนในที่สุดเหลือเพียงอัคนีและอัจจิมาสองคนที่วาดลีลาใส่กัน โดยที่คนอื่นเปลี่ยนมายืนตบมือเชียร์ ส่วนพฤกษ์เอาแต่มองอัจจิมาด้วยความรู้สึกหลงใหลในความน่ารักและไม่ยอมใครของเธอ
ooooooo
เวลาเดียวกันที่ไร่อดิศวร เสียมและกันยาถึงกับกินข้าวไม่ลงเมื่อเห็นลีลาการเต้นของศักดิ์ โบพา จันทู ในแบบฉบับหนุ่มแว้นสาวสก๊อยภูธรของแท้ พอเสียมลุกไปปิดเพลง ทั้งสามดาวเต้นก็ชะงักกึก ศักดิ์ต่อว่าพ่อว่าปิดทำไม ตนกำลังจะโชว์ท่าพิเศษอยู่พอดี
"ท่าพิเศษอะไรของเอ็ง เห็นเต้นยึกยือเป็นไส้เดือนคลุกขี้เถ้ามาเป็นชั่วโมงแล้ว"
"ใช่ นังสองคนนี่ก็เหมือนพวกเมายาดอง โยกไปโยกมาจนข้าจะอ้วกอยู่แล้ว"
"ไหงพูดยังงี้ล่ะลุงป้า นี่พวกฉันอุตส่าห์ซ้อมกันทั้งวันทั้งคืนนะ"
"ทุเรศทุรังขนาดนี้ยังกล้าพูดว่าซ้อมมาแล้วเหรอ เอ็งจะซ้อมไปหาพระแสงอะไรวะ"
"อ๊ะ ก็เพื่อพิชิตถ้วยและเงินรางวัลดาวเต้นยอดเยี่ยมแห่งปีของอดิศวรรังสรรค์สิพ่อ ถามได้ มาน้องโบพา จันทู ซ้อมกันต่อ อย่าไปสนใจฟังคำวิจารณ์ของพวกคอมเมนเตเตอร์แก่ๆเลย"
ศักดิ์จะไปเปิดเพลงเต้นต่อ แต่เจอเสียมยันโครมเข้าให้
"เป็นไง แก่แต่ตีนหนักใช้ได้ใช่มั้ย ไป...เอ็งจะพากันไปดิ้นทุรนทุรายขอส่วนบุญที่ไหนก็ไป อย่ามาอยู่รกหูรกตา ข้าแถวนี้"
"อู๊ยยยย...ไปก็ได้ ถ้าเกิดฉันกับน้องโบพา จันทู ชนะได้ที่หนึ่งขึ้นมา อย่ามาหลั่งน้ำตาภูมิใจทีหลังล่ะ" ศักดิ์บ่นอุบ คว้าวิทยุขึ้นมาแล้วไม่วายแกล้งพ่อกับแม่ด้วยการเปิดเพลงเสียงดังแล้วพากันเต้นยึกยือออกไปพร้อมกับโบพาและจันทู...
ส่วนที่งานปาร์ตี้สละโสดของปีใหม่กับใหญ่ริมชายหาดกำลังคึกคักได้ที่ ทุกคนดื่มค็อกเทลสีสวยสูตรของพฤกษ์แล้วก็ชมว่ากลมกล่อม ยกเว้นอัคนีที่ไม่ค่อยเห็นด้วยและไม่อยากดื่มเพราะหมั่นไส้เจ้าของสูตร แต่พออัจจิมาเอ่ยปากหยามหยัน ชายหนุ่มถึงกับท้าดวลแก้วต่อแก้ว จนที่สุดก็หมดเกลี้ยง สภาพของทั้งคู่จึงไม่ต่างกับขี้เมา แถมทั้งคู่ยังมีอาการท้องไส้ปั่นป่วนวิ่งเข้าห้องน้ำทางเป็นมัน
พี่หนูต่อหวังดีไปขอยาแก้อาการอ่อนเพลียและยานอนหลับจากพฤกษ์ให้ตัวเองและเผื่อทั้งอัจจิมาและอัคนีด้วย จะได้นอนหลับกันสบาย แต่ยาสองชนิดหน้าตาคล้ายกันมาก พฤกษ์จึงย้ำแล้วย้ำอีกจนพี่หนูต่อต้องบอกว่าจำได้แม่นแล้ว
ปีใหม่กับใหญ่เป็นห่วงอัจจิมาและอัคนีที่ถ่ายท้องจนอ่อนระโหยโรยแรง ซึ่งปีใหม่โทษอัคนีที่ไปท้าอัจจิมาก่อน พอเธอถามว่าจะไปให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลหน่อยไหม อัคนีปฏิเสธทันที บอกอยากนอน ให้พาอัจจิมาไปคนเดียว
"ฉันไม่ไป นายคิดว่านายธาตุหนักกว่าฉันงั้นสิ"
"ที่ฉันพูดก็เพราะเป็นห่วง ไม่อยากเห็นใครขี้แตกตายที่นี่ มันเสียภาพพจน์โรงแรม สงสารคุณพฤกษ์เขา เข้าใจมั้ย"
"ถ้าจะมีใครตาย ก็คงจะเป็นนาย เพราะฉันยังแข็งแรงดี" อัจจิมาไม่พูดเปล่า พยายามยืดตัวเดินโชว์ แต่แล้วซวนเซเกือบล้มถ้าพฤกษ์พุ่งเข้ามาประคองไว้ไม่ทัน
"ว้าย คุณจี๊ด เกือบล้มหัวฟาดพื้นไปแล้วมั้ยล่ะ" ปีใหม่ตกใจ พี่หนูต่อก็แตกตื่น ให้รีบพาขึ้นไปที่ห้อง พฤกษ์จึงประคอง อัจจิมาออกไป คนอื่นๆรีบเดินตามด้วยความเป็นห่วง อัคนีรั้งท้ายตาขวางๆ ถึงจะท้องเสียเซ็งเพลียยังไง ก็ไม่ละเหี่ยใจ เท่ากับเห็นพฤกษ์โอบอัจจิมาออกไปคาตาแบบนี้
ooooooo