ญี่ปุ่น ... 1 ปีเต็มผ่านไป เห็นอะไรมาบ้าง เอามาฝากให้ชมพร้อมพิกัดครับ

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ มี Login Pantip มานมนานเป็นสิบปี น่าจะโพสต์ไม่ถึงสิบกระทู้ และกระทู้นี้น่าจะเป็นกระทู้แรกตั้งแต่เปลี่ยนเป็นระบบใหม่ รบกวนปล่อยของสักเล็กน้อยครับผม

สืบเนื่องมาจาก ผมมีโอกาสได้มาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่น กรุงโตเกียวเป็นรอบที่สามในชีวิต แต่เป็นครั้งที่ 4 ที่ได้มาประเทศแห่งนี้

ย้อนไปครั้งแรกก็ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2005 นู่นน่ะครับ เป็นการมาท่องเที่ยวสิบกว่าวัน ตามใจอยากที่จะบินมาคนเดียวให้เห็น ว่าประเทศนี้มันมีดีอะไร กลายเป็นว่า ติดใจแบบกู่ไม่กลับเลยทีเดียว

ครั้งที่สองที่ได้มา ก็กลายเป็นมาทำงานช่วงสั้นๆสองเดือน เมื่อตอนปลายปี 2010 ก็ยังรู้สึกว่าไม่เต็มอิ่ม แต่ก็ทำให้รอดแผ่นดินไหวใหญ่ เพราะกลับมาก่อนมีนาคม 2011 จนมาถึงปี 2012 ช่วงต้นปี ก็ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งครั้งนั้นก็อยู่ที่นี่ร่วม 8 เดือน แต่ประเทศนี้ ถ้ารัก ก็รักเลยล่ะครับ ยังงัยก็ต้องกลับมาอีก

จนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่นาน ช่วงปลายสิงหาคมปี 2013 ก็ได้มีโอกาสกลับมาทำงานที่ประเทศนี้เป็นรอบที่สาม และคราวนี้ก็อยู่ยาวจุใจเต็มอิ่ม 1 ปีเต็มๆผ่านมาแล้วเลยทีเดียว ก็เลยเอารูปสถานที่ๆคนทำงาน เที่ยวได้แค่เสาร์อาทิตย์แต่ใจก็อยากจะเที่ยว มาให้ชมกันว่าคนบ้ากล้องบ้าถ่ายรูปก๊อกๆแก๊กๆไปเรื่อยเปื่อย แต่ละช่วงแต่ละเดือน ได้เห็นอะไรมาบ้างในประเทศอันเป็นที่รักยิ่งแห่งนี้ครับ หัวเราะ

ปล. เอาโลเคชั่นไปแปะในกูเกิ้ลแมพได้เลยครับผม

ภาพเปิด เป็น Landmark ที่ผมรักที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งก็คือ ฟูจิซัง นั่นเอง เป็นช่วงเช้าตรู่ประมาณตีห้าครึ่งเดือนมีนาคม สถานที่ๆมีชื่อว่า ฟุโมโตะพาระ บริเวณใกล้ๆก้บทะเลสาบโมโตสึ อากาศหนาวสบายสำหรับคนขี้ร้อนอย่างผมล่ะครับ

Location : N 35°24’2.052”, E 138°33’41.874” (Fumotopara)



ช่วงเพิ่งมาถึง ตอนปลายสิงหาคม ยังไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนมาก เป็นการเตรียมตัวเตรียมข้าวของเครื่องใช้เข้าอพาร์ตเมนต์ในช่วงวันหยุดซะมากกว่า แต่พอเข้าเดือนกันยายนได้ เสาร์อาทิตย์เป็นต้องออกเดินเท้า ปล่อยมันไปตามลมเลยล่ะฮะ และพอดีว่า ญี่ปุ่นมีแคมเปญโปรโมตให้ประเทศตัวเองได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปี 2020 พอดี Tokyo Skytree ที่ผมได้มีโอกาสขึ้นไปชั้นชมวิวสูงลิบเมื่อเดือนมิถุนายน 2012 ตอนเปิดเดือนแรกเลย ก็มีการเปลี่ยนสีให้เข้ากับบรรยากาศ ซึ่งโดยปกติ จะเป็นแค่สีม่วงมิยาบิ และสีฟ้าอิคิ ทาวเวอร์นี้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆครับ ถ้าจะตามเก็บได้หมดทุกสี ทุกเทศกาล คงต้องเที่ยวญี่ปุ่นกันจนหงำเหงือกเป็นแน่แท้

Location : N 35°43’59.712”, E 139°48’37.662” (แห่งหนึ่งริมแม่น้ำสุมิดะ)



โอกาสพิเศษอย่างหนึ่งที่ไม่ได้มากันง่ายๆ นั่นก็คือ ผมได้มีโอกาสไปเก็บบรรยากาศการแต่งตัวของไมโกะ ตั้งแต่แต่งหน้าทำผมในห้อง จนเสร็จออกมาเป็นรูปร่างเดินเก๋ๆในย่านกิอง กรุงเกียวโต

Location : N 35°0’4.0”, E 135°46’47.662” (Gion Kyoto)



ช่วงเดือนตุลาคม อากาศเย็นๆเริ่มมาเยือนภาคกลางของญี่ปุ่น และแน่นอนครับ ใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงเวลาที่ผู้คนมีความสุขไม่แพ้ช่วงซากุระเลยทีเดียว แต่ช่วงตุลาคม จะมีแต่ทางแถบฮอกไกโด ที่ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีก่อนใครเขา ไอ้เรายังหาเวลาไปที่ไกลๆไม่ได้ ก็เริ่มไปเที่ยวชมต้นโคเคีย ที่จังหวัดอิบารากิ พุ่มไม้เตี้ยๆ ที่เปลี่ยนสีจากเขียว เป็นแดงในช่วงเดือนนี้ล่ะครับ

Location : N 36°24’18.180”, E 140°36’1.242” (Hitachi Seaside Park)



นิกโก้ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามตลอดทั้งปี ก็ต้องไปชมในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีให้ได้เหมือนกัน ประมาณปลายๆตุลาคม ถึงต้นพฤศจิกายนนี่กำลังเหมาะ แถมเสาร์อาทิตย์ การจราจรหนาแน่นมากเลยทีเดียวครับ

Location : N 36°45’24.570”, E 139°35’58.590” (Toshigi Shrine)


ช่วงเดือนพฤศจิกายน ใบไม้เปลี่ยนสีจะเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะบนเกาะฮอนชู ไล่ตั้งแต่แถบคันโต ยาวลงใต้ไปจนถึงชูโกคุ ยันคิวชูนู่นเลย เป็นฤดูไฮซีซั่นระดับพีครองจากช่วงซากุระในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ การจะหาโรงแรมสำหรับม้งอย่างผม ก็ยากพอสมควรเลยทีเดียว ไม่ตรงช่วงเวลาที่ดีมั่งล่ะ เต็มสุดๆมั่งล่ะ แต่สุดท้าย ผมก็ถ่อไปจนถึงเซมโบคุ ที่จังหวัดอะกิตะจนได้ จริงๆทริปนี้แค่อยากจะนั่งชินคังเซ็น E6 สีแดงแปร๊ด แล้วขากลับก็กลับด้วย E5 ฮายาบุสะจากโมริโอกะ แค่นั้นเอง

Location : N 39°36’32.868”, E 140°39’20.910” (Dakigaeri Gorge)



อีกสถานที่หนึ่งในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว เห็นทั้งใบไม้เปลี่ยนสี วิวเมืองชินจุกุ และยาวไปจนถึงฟูจิซัง มีวัดให้เที่ยวด้วย ก็ต้องที่ทะคะโอะซังนี่เลยครับ ครบเครื่อง ได้ออกกำลังเดินขึ้นเขาระยะทางสั้นๆด้วย

Location : N 35°37’52.008”, E 139°15’45.282” (Takaosan)



ดินแดนที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีได้สุนทรีย์ที่สุดในโลก ตัวผมคงจะยกให้เมืองเกียวโตเป็นแน่ ทำไมน่ะหรือ คงเป็นเพราะบรรยากาศโดยรวมล่ะมังครับ ไม่ใช่แค่ใบไม้ ที่เป็นองค์ประกอบหลักในการชม แต่มันคือบรรยากาศโดยรวม ผู้คน สภาพบ้านเมือง วัดวาอาราม มันทำให้รู้สึกญี่ปุ๊นญี่ปุ่น ถ้าจะต้องมาดูใบไม้แดง มันต้องเกียวโต อะไรทำนองนั้น และปีนี้ก็อีกเช่นเคย งานยุ่งจนยังหาโรงแรมไม่ได้ ซึ่งสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤศจิกายนเป็นวันหยุดยาว และโดยเฉลี่ย เกียวโตจะแดงเดือดสุดๆก็สัปดาห์นี้ล่ะครับ ปีก่อน ไปช้าสัปดาห์นึง ช่วงต้นเดือนธันวาคม ใบไม้ก็เริ่มโรยๆซะแล้ว

Location : N 34°59’40.362”, E 135°47’7.620” (Kiyomizu-Dera)



ช่วงปลายเดือนธันวา ที่ญี่ปุ่นก็เหลือแต่บรรยากาศเย็นเฉียบ แต่อากาศแบบนี้ สบายสำหรับผมมากๆ ว่าแล้วก็ออกไปถ่ายรูปอีกตามเคย และคราวนี้ก็ดั้นด้นไปจนถึงสะพานโตเกียวเกต หรือสะพานไดโนเสาร์ ที่คนญี่ปุ่นเรียกแบบนี้เพราะมันเหมือนไดโนเสาร์สองตัวจีบกันอยู่ใช่ไหมล่า มองไปไกลๆ วันท้องฟ้าปลอดโปร่ง ก็จะเห็นฟูจิซังด้วยนะครับ

Location : N 35°36’45.444”, E 139°50’7.596” (Tokyo Gate Bridge)



และก็เช่นเคย ช่วงปลายปีข้ามปีใหม่ อากาศดีๆแบบนี้ เล็งวันดีๆ แล้วก็ออกไปหาภูเขาที่รักอย่างฟูจิซังเช่นเคย คราวนี้เป็นสถานที่ยอดฮิตอย่างฮาโกเน่ ที่ใครๆมาเที่ยวญี่ปุ่น ก็ต้องมีติดไว้ในโปรแกรมกันทุกรายล่ะ การชมฟูจิซังจากฮาโกเน่ในประสบการณ์ส่วนตัวผม มันเป็นสถานที่ๆเห็นฟูจิซังแล้วดูหรูหรา อลังการที่สุดแล้วล่ะ องค์ประกอบโดยรวม(อีกแล้ว)ในการมองเธอ มันช่างลงตัวในความหรูนั่นเอง

Location : N 35°12’0.000”, E 139°1’55.002” (Hakone from Achinoko)



การมองเมืองโตเกียวอย่างสมบูรณ์แบบ ก็ต้องข้ามมามองที่โอไดบะ อ่าวโตเกียวอยู่ข้างหน้าเคียงคู่กับสะพานสายรุ้ง ตึกระฟ้าอยู่ข้างหลัง มีทาวเวอร์ที่ผมชอบไปมองมันจากข้างล่างเพื่อเพิ่มพลังในการดำเนินชีวิตที่นี่อย่างโตเกียวทาวเวอร์โดดเด่นโผล่ขึ้นมา ทำให้ได้ระลึกเสมอว่า นี่แหละโตเกียว!!! เวลาหมดพลัง ลองไปยืนใต้โตเกียวทาวเวอร์ แหงนหน้ามองแล้วสูดหายใจลึกๆดูครับ พลังกลับคืนมาหยั่งกะดื่มกระทิงแดงสองขวดรวดเลยทีเดียว

Location : N 35°37’59.424”, E 139°46’15.696” (Odaiba Kaihin Koen)



ช่วงต้นปี ที่ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านที่เป็นมรดกโลก จะมีเปิดไฟในช่วงพลบค่ำให้นักท่องเที่ยวได้เดินขึ้นไปชมบนจุดชมวิว พอมองไปยาวๆแล้ว หยั่งกะหลุดเข้าไปในญี่ปุ่นยุคโบราณจริงๆแน่ะ

Location : N 36°15’46.596”, E 136°54’30.126” (Shirakawago)



ถ้าเดือนกุมภาพันธ์ในโตเกียวมันยังหนาวไม่พอ ก็ขึ้นไปคลุกหิมะที่ฮอกไกโดสิครับ ขาวโพลนไปหมด อาหารอร่อยทุกอย่าง วันที่ผมไป เพื่อไปชมเทศกาลหิมะนี่ถึงกับพายุหิมะเข้า กว่าจะแบกร่างกลับมาโตเกียวได้แทบแย่แน่ะ

Location : N 43°11’59.658”, E 141°0’5.358” (Otaru, Hokkaido)



ช่วงเดือนมีนาคม อากาศในโตเกียวเริ่มอุ่นขึ้นเตรียมรับการมาเยือนของสัญลักษณ์อันดับหนึ่ง นั่นก็คือดอกซากุระ ผมก็ยังคงออกตระเวนเก็บภาพตามสถานที่ต่างๆเช่นเคย โดยเฉพาะเมื่อสบโอกาสวันอากาศดีตรงกับวันหยุด ก็ย่อมไม่รอช้า คว้ากล้องออกไปหาฟูจิซังแบบไม่ต้องคิดถึงที่อื่นเลยล่ะ

Location : N 35°15’49.278”, 139°34’35.718” (Fujisan at Sagami Bay)



การตระเวนเก็บภาพฟูจิซัง มีเรื่องที่นักท่องเที่ยวควรเข้าใจอันดับแรกเลยก็คือ เธอขี้อายครับ บางทีเราเช็คอากาศจนเรียกว่ามั่นใจสุดๆ ออกไปจริงๆเธอยังหลบหน้า หลายๆที เมฆก็มาช่วงบดบังใบหน้าของเธอซะงั้น แม้ฟ้าโดยรอบข้างจะใสสว่างไปทั้งหมด -,-

Location : N 35°17’55.212”, E 139°33’4.782” (Fujisan and Enoshima)



ดังนั้น การออกไปหาฟูจิซัง มันก็เหมือนความท้าทายอย่างนึงในชีวิต ภูเขาอะไร สวย 360 องศา แถมยังเป็นกุลสตรีไทยยุคโบราณ ไม่ชอบเปิดเผยหน้าตาในที่แจ้งมากนัก ยิ่งวันไหนได้เห็นเธอเต็มๆ อารมณ์ดีแบบบอกไม่ถูก โดนลุงแซงขึ้นรถไฟยังยิ้มได้ อะไรทำนองนั้น หัวเราะ

Location : N 35°17’55.212”, E 139°33’4.782” (Fujisan from Shizuoka Tea Plant)



อีกอย่างในญี่ปุ่น ที่ผมรักไม่น้อยไปกว่าฟูจิซังเลย นั่นก็คือ รถไฟ ครับ ชอบจริงๆเลยรถไฟญี่ปุ่นเนี่ย ยิ่งเป็นชินคังเซน หรือรถไฟแปลกๆ ลายลิมิเต็ดนี่เห็นแล้วใจละลาย แล้วถ้าสองอย่างนี้มาอยู่รวมกัน ผมถึงกับบรรยายอะไรไม่ออกเลยทีเดียวล่ะ

Location : N 35°9’7.998”, E 138°43’54.000” (Fujisan and Shinkansen)
แก้ไขข้อความเมื่อ 21 สิงหาคม 2557 เวลา 12:45:22 น.

Mahalarp
279 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เวลาผ่านมาถึงต้นเดือนเมษายน ช่วงแห่งความเบิกบานของซากุระ เป็นฤดูกาลที่การท่องเที่ยวญี่ปุ่นพีคสุดโต่ง ผมเดินไปที่ไหนก็เจอคนไทยเต็มไปหมดเลยทีเดียวล่ะ แต่หน้าซากุระที่ผ่านมาของปีนี้ วันที่อากาศดีดันเป็นวันธรรมดา นักท่องเที่ยวหลายๆคนที่เลือกวันเดินทางได้ดีกว่า มาเห็นซากุระบานสะพรั่ง ก็ฟินกันไปตามระเบียบ แล้วพอใกล้เสาร์อาทิตย์ ฝนก็มาหอบเอาซากุระร่วงหายไปเยอะ ปีนี้เลยไม่มีโอกาสได้ชมซากุระแบบเต็มๆ จุใจเท่าไหร่ แต่การรอคอยให้ได้เห็นซากุระอีกครั้ง ไม่ว่าจะปีไหน มันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของผมล่ะ หัวเราะ

Location : N 35°38’45.198”, E 139°41’54.858” (Naka-Meguro Station)



อีกสถานที่หนึ่งที่ผมได้เห็นซากุระแบบแน่ๆ ถ้าอยู่ญี่ปุ่น นั่นก็คือที่สวนคินุตะ สวนใหญ่เบ้อเริ่มหลังอพาร์ทเม้นต์ผมเอง ตอนกลางวันที่ออฟฟิสก็จะชวนกันไปปูเสื่อกินข้าวกันที่สวนนี้ด้วยล่ะ จนผมมองไปนานๆ ซากุระมันไม่ใช่ดอกไม้แฮะ มันคือวิถีชีวิต มันคือภาพรวม บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่นได้ดีสุดๆยิ่งกว่าใบไม้แดง หรือฟูจิซังเลยทีเดียว

Location : N 35°37’51.852”, E 139°37’14.232” (Kinuta Park, Yoga Station)



ที่คุดันชิตะ ก็เป็นจุดหนึ่งที่เห็นซากุระใบแบบโตเกี๊ยวโตเกียว มีสระน้ำให้พายเรือกันหนุงหนิง มีซากุระล้อมรอบ และมี โตเกียวทาวเวอร์

Location : N 35°41'40.572", E 139°44'53.418" (Kudanshita Kitanomaru Park)



เดือนปลายเมษายน ต้นพฤษภาคม ใครยังไม่เต็มอิ่มกับซากุระในแถบคันโตกับคันไซ ก็ต้องขึ้นเหนือครับ แถบโทโฮคุ กับฮอกไกโด กำลังบานสะพรั่งเลยทีเดียวล่ะ แล้วในช่วงนี้ ก็เป็นช่วงหยุดยาวโกลเด้นวีคของญี่ปุ่น ที่ปราสาทฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ ก็เลยกลายเป็นสถานที่ๆคนแห่กันไปชมซากุระมากเป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นเลยทีเดียว

Location : N 35°37’51.852”, E 139°37’14.232” (Hirosaki Castle, Aomori)



แล้วก็อีกสถานที่หนึ่ง ที่ในช่วงนี้ต้องมาให้ได้ นั่นก็คือการเอาร่างกายมาแปะบนกำแพงหิมะสูงท่วมหัวบนเทือกเขาทาเทยามะ สูงๆหนาวๆขนาดนี้ นักท่องเที่ยวแห่กันมาสูดไอเย็นกันเต็มที่

Location : N 36°34’36.000”, E 137°35’26.706” (Tateyama Kurobe Alpine - Snow Corridor)



เข้าเดือนมิถุนายน ก็เป็นช่วงฤดูฝนของที่นี่ หาวันอากาศดีๆออกไปถ่ายรูปยากมาก เลยเน้นชอปปิ้งจนตังหมดเป็นส่วนใหญ่ ฮา แต่ถ้าวันไหนฟ้าเปิด มีเหรอผมจะพลาด หอบกล้องปีนตึก ได้เห็นโตเกียวทาวเวอร์ก็มีความสุขแล้วล่ะครับ

Location : N 35°39’22.722”, E 139°45’24.138” (World Trade Center, Tokyo)



และก็อีก ถ้าอากาศดี ทำไมจะไม่ออกไปหาเธอคนนี้ ฟูจิซัง ที่ในภาพนี้คือชินโดโตเกะ เขาที่ต้องขึ้นจากทางทะเลสาบคาวากุชิโกะ ซึ่งที่นี่ผมเคยเสล่อมาตอนเดือนมีนาคม หิมะยังปกคลุมทางขึ้นอย่างหนาอยู่เลย เริ่มเดินลุยหิมะตั้งแต่ตีสี่กว่ามาถึงใกล้ๆจุดนี้ประมาณตีห้านิดๆ และในอีกไม่กี่นาทีก็จะพบเป้าหมาย แต่หิมะก็ทำให้ทางอันตรายเกินกว่าจะข้ามขอบเขาไปทักทายฟูจิซังได้ เลยมีอันต้องล่มไปตามระเบียบ แล้วกลับมาครั้งใหม่ในช่วงเดือนมิถุนายน ก็ช้าไปนิดนึง ตีสี่ครึ่งฟ้าก็สว่างขนาดนี้แล้วล่ะครับ ต้องกลับมาซ่อม ยิ้ม … แล้วก็อย่างที่บอกไปว่า การมองฟูจิซังจากฮาโกเน่มันคือความหรูหราสำหรับผม แต่ถ้าเป็นคาวากุชิโกะ มันคือความสมบูรณ์แบบ ทะเลสาบ เมืองเล็กๆที่ไม่วุ่นวาย อยู่เป็นฉากด้านหน้า และมีภูเขาที่งดงามที่สุดในโลกอย่างฟูจิซังยืนยิ้มให้ข้างหลัง เด็กขายดอกไม้เดินผ่านก็ซื้อให้เธอหมดทุกดอกล่ะครับ ใจจะละลายยย

Location : N 35°32’50.874”, E 138°44’4.188” (Shindotoge, Mt.Kurodake, Yamanashi)



ดินแดนที่แลนสเคปของความเป็นเมือง สวยที่สุดในญี่ปุ่น ก็คงหนีไม่พ้นโยโกฮาม่า เมืองสวย สะอาดสะอ้าน อาหารอร่อย มิวเซียมเพียบ มีทะเล และมีเรืออันเป็นที่รักยิ่ง … Hikawa Maru

Location : N 35°27’16.080”, E 139°37’50.592” (Yokohama Landmark Tower)



เดือนกรกฎาคม เข้าหน้าร้อนเต็มรูปแบบของประเทศญี่ปุ่น ร้อนไปหมด ร้อนจนผมแทบจะยืนเกาะตู้ขายน้ำได้ทั้งวัน และสิ่งที่คู่กับหน้าร้อน ที่จะขาดไปไม่ได้สิ่งนึงเลยก็คือพลุครับ ได้มีโอกาสไปชมพลุที่เดียวแบบเต็มๆในปีนี้ ที่เอโดกาวะฮานาบิ ส่วนที่อื่นน่ะหรือ หึหึหึหึ โดยภัยฟ้าตุ่นฝนตกเข้าเล่นงานครับ -,-

Location : N 35°43’20.874”, E 139°54’7.104” (Edogawa Hanabi 2014)



แล้วก็วันที่เจ็ด เดือนเจ็ด วันแห่งความรักที่คนญี่ปุ่นรอคอย แม้มันจะเป็นรักที่ไม่ค่อยสมหวังเสียเท่าไหร่ แต่มันก็มีคุณค่าในการรอคอย และปีนี้ ผมก็ได้กลับไปเดินเล่นทีฮิรัตสุกะทานาบาตะอีกเช่นเคย ทานาบาตะ ก็เป็นเทศกาลที่คู่กั๊นคู่กันกับหน้าร้อนของญี่ปุ่น แม้จะร้อนแบบหูดับตับไหม้ แต่ผู้คนก็เดินยิ้มกันอย่างมีความสุขในเทศกาลเหล่านี้แหละครับ หัวเราะ

Location : N 35°19’47.268”, E 139°20’54.378” (Hiratsuka Tanabata)



ร้อนๆแบบนี้ เที่ยวน้ำตกก็ดีไม่หยอก พอดีมีทริปของบริษัท พาไปเที่ยวผ่อนคลายที่คารุอิซาวะ เมืองเล็กๆระหว่างทางจากโตเกียว ก่อนจะถึงจังหวัดนางาโนะ มีน้ำตกเล็กๆแห่งนึงที่มีความพิเศษตรงที่ มันสูงเพียงแค่สามเมตร แต่ยาวพรืดร่วมเจ็ดสิบเมตร เลนส์กว้างแค่ไหนก็เก็บไม่หมดครับ หัวเราะ

Location : N 36°24’37.470”, E 138°35’32.676” (Shiraito Falls)



ที่ญี่ปุ่น มีตึกที่โครงสร้างการออกแบบแปลกตาก็ไม่น้อย เรียกได้ว่า ตึกและถนนหนทางนี่จัดเต็มมาก ผิดกับห้องนอน ที่เล็กอย่างกับรูหนู ทำให้ผมอยู่บ้านไม่ติด ต้องออกมาเดินเล่นชมบ้านชมเมืองทุกวันหยุดนั่นแหละ แม้ว่าจะเป็นวันฝนตก ฟ้าตุ่น ถ่ายรูปไม่ได้ ก็ยังต้องออกมายืดเส้นยืดสาย ตึกในภาพก็เป็นตึกนึงที่โครงสร้างสวยงามน่าชมเลยทีเดียว แต่ตอนถ่ายรูปออกมา มันดูไม่บาลานซ์ยังงัยไม่รู้ เลยจับใส่กระจกซะเลย หัวเราะ

Location : N 35°40’35.952”, E 139°45’51.522” (Tokyo International Forum)



หน้าร้อน ฟ้าเน่า มองไม่เห็นฟูจิ ไม่มีอะไรทำ ก็ออกมาเป็นติ่งรถไฟครับ … ยืนดูชินคังเซนวิ่งผ่านไปผ่านมา สนุกดีนะเออ

Location : N 35°39’23.814”, E 139°45’24.660” (Hamamatsucho Station)



สิงหาคม ครบหนึ่งปีพอดีที่ได้มากินๆนอนๆ ใช้แรงงานที่นี่ หวังว่าจะได้นำความรู้กลับไปใช้ที่บ้านเกิดเมืองนอนในวันข้างหน้า … เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โตเกียวสกายทรี ก็มีสีใหม่มาให้ชมอีกแล้ว (จริงๆผมมีสีต้นคริสต์มาส กับต้นซากุระด้วยนะ) แล้วมาคราวนี้ ก็เป็นสีที่มีชื่อในคอนเซปต์สองชื่อว่า “Happy” “Again” … มีความสุขกับการใช้ชีวิตเถอะครับ แม้ว่ามันจะลำบากยากเย็นเพียงไหน หามุมสบายของเราเอาไว้พักผ่อนให้เจอ พักเสร็จ เดินเตะรถสิบล้อยังพังมันได้เลยล่ะ ฮาาา

Location : N 35°42’43.926”, E 139°48’0.156" (แห่งหนึ่งริมแม่น้ำสุมิดะ)



สุดท้ายแล้วครับ ขอบพระคุณที่เลื่อนตามดูผมโม้จนจบ โดยกู(ไม่)รู้ กูเที่ยวแหลก อย่างผม มีอะไรผิดพลาดประการใด แนะนำกันมาได้ครับผม เผื่อจะเป็นข้อมูลให้คนที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่น ได้เห็นประเทศนี้ในมุมมองที่กว้างมากขึ้น หลากหลายมากขึ้น และสนุกกับการเดินทางมากยิ่งขึ้นครับพ้มมม

Location : N 35°42’38.610”, E 139°47’46.860” (Senso-ji, Asakusa)



ฝากอัลบั้มรูปก๊อกๆแก๊กๆของผมที่ http://500px.com/mahalarp ด้วยครับ จะพยายามหารูปมาฝากตามแต่อากาศจะเอื้ออำนวยครับผม หัวเราะ

Location : N 35°40'48.408", E 139°45'53.472" (Tokyo Station)


(c) Mahalarp Teeradechyothin http://mahalarp.com/about
แก้ไขข้อความเมื่อ 21 สิงหาคม 2557 เวลา 12:47:21 น.

Mahalarp
ความคิดเห็นที่ 1-1
.
แก้ไขข้อความเมื่อ 21 สิงหาคม 2557 เวลา 03:43:53 น.

สมาชิกหมายเลข 1080842
ความคิดเห็นที่ 1-2
อมยิ้ม17ขออนุญาตเป็นแฟนคลับ เกาะขอบกระทู้ครับ

anurak_jun
ความคิดเห็นที่ 1-3
ขึ้นไปถ่ายวัด Senso-ji, Asakusa ตึกไหนเหรอครับ

tottui
ความคิดเห็นที่ 1-4
ด้านหน้าวัด มีตึกที่เป็นศูนย์นักท่องเที่ยวครับผม ข้ามถนนหน้าวัดมาก็เข้าประตูได้เลยคร้าบบบ

Mahalarp
ความคิดเห็นที่ 1-5
สวยมากเลยค่ะ ยิ้ม

soompooy
ความคิดเห็นที่ 2
สุดสุดอมยิ้ม36

สองแสนทองสิบบาท
ความคิดเห็นที่ 3
รูปสวยจังเลยค่ะ แถมยังลงโลเคชั่นไว้ให้ตามรอยได้อีก ขอบคุณมากเลยนะคะ

รู้ว่าเหนื่อย...
ความคิดเห็นที่ 4
สวยทุกที่
น่าไปทุกฤดู
อิจฉาจังครับ
อัศวินเหงื่อตก

Suisen
ความคิดเห็นที่ 5
สวยมากๆ ครับ

ForDed
ความคิดเห็นที่ 6
ดูเพลินเลย รูปสวยมากค่ะ

ohnaejung
ความคิดเห็นที่ 7
สวยครับ ขอบคุณที่แชร์

ข้าวเหนียวไก่ทอด
ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับภาพสวยๆ และข้อมูล

ลิงละเมอ
ความคิดเห็นที่ 9
นี่มันฝีมือปรมาจารย์แล้ว

กงจื้อรอง
ความคิดเห็นที่ 10
รูปสวยมากกกกกกกกกกกกก
ดูแล้วคิดว่าต้องเป็นช่างภาพมืออาชีพมาเองนะค่ะเนี่ย

MekMook
ความคิดเห็นที่ 11
กำลังจะไปครั้งแรก และคิดว่าต้องไปครั้ง...ต่อต่อไปด้วย^^

loveMoNe
ความคิดเห็นที่ 12
รูปสวยมากๆครับ

JIRATH
ความคิดเห็นที่ 13
เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

Drunkenangel
ความคิดเห็นที่ 13-1
ไม่มีนาย เราคงเริ่มต้นใช้ชีวิตที่นี่ลำบากน่าดูเลยเพื่อนรักเอ๊ยยย

Mahalarp
ความคิดเห็นที่ 14
เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

thyrocyte
ความคิดเห็นที่ 15
เพี้ยนออกทริป
เพี้ยนmbpt

JouRneY-VoyagE
ความคิดเห็นที่ 16
สวยงามมากครับ ชีวิตนี้อยากถ่ายได้สวยๆแบบนี้บ้างจัง

นางหงส์เหิน
ความคิดเห็นที่ 17
โห...งามๆๆๆๆๆๆ อมยิ้ม01

NMkrung
ความคิดเห็นที่ 18
ขอบคุณครับที่นำภาพสวยสวยมาแบ่งปัน เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

สล่าหน้อย
ความคิดเห็นที่ 19
สุดยอดมากๆครับ 1ปี ได้มาเยอะเลย อิจฉาสุดๆ

สมาชิกหมายเลข 797731
ความคิดเห็นที่ 20
รูปสวยมากกกกกกกกก
คำบรรยายก็ชอบมากกกก
รักกระทู้นี้จังเลยค่ะ ยิ้ม

อีกเดือนกว่าๆเราก็ต้องไปอยู่ญี่ปุ่น1ปี
ถ้ามีเวลาก็ตั้งใจว่าจะไปเตร็ดเตร่ถ่ายรูปเรื่อยๆเหมือนกันค่ะ

MAKOMAKO
ความคิดเห็นที่ 21
สวยและเจ๋งมี location ด้วย

tan_www
ความคิดเห็นที่ 22
รูปสวยมากกกกกกกก ถ่ายเก่งจังค่ะ ขอบคุณนะคะ

catky
ความคิดเห็นที่ 23
รูปสวยมากๆเลยค่ะ แถมบอกตำแหน่งให้ด้วย
ขอบคุณมากนะคะ

Miss_Behaving
ความคิดเห็นที่ 24
รูปสวยมากๆๆๆๆๆๆ ทุกๆรูปเลยค่ะ
โดยเฉพาะรูปเปิด
สุดยอด!!!!

Wanne be a World Traveller
ความคิดเห็นที่ 25
สวยๆทั้งนั้นครับ ขอเซพกระทู้ไว้ก่อน ไปคราวหน้าได้พิกัด ที่เที่ยวอีกเยอะเลย

ขอบคุณมากครับ

กระท่อมชาวไร่