วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม 2553
คนอ่าน 168 คน
ส่งต่อ
พิมพ์
ขนาดตัวอักษร
Reset
คมชัดลึก :สช.ยันวาทยกรโลกชาวรัสเซียผู้ต้องหาตุ๋ยเด็กไม่เคยขอเปิดโรงเรียนดนตรี แจงระเบียบสช.ไม่อนุญาตให้คนต่างชาติเปิดโรงเรียนในไทย หากสอนจริงเข้าข่ายโรงเรียนเถื่อน สวช.วอนร.ร.-พ่อแม่ดูแลลูกไม่ให้เล่นเกมจนขายบริการ ตร.เล็งตั้งข้อหาเอาผิดเพิ่ม
(9ก.ค.) นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เปิดเผยว่า นายมิคาอิล เพลตโนฟ วาทยกรชื่อดังชาวรัสเซีย ซึ่งมีข่าวว่ากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีในไทยนั้นไม่เคยขอเปิดโรงเรียนในประเทศไทยตามที่มีกระแสข่าว ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ สช.ตรวจสอบข้อมูลแล้ว ไม่พบว่า นายมิคาอิลเคยยื่นขอเปิดโรงเรียนสอนดนตรีมาที่ สช.
ความจริงแล้ว ระเบียบของ สช.ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเปิดโรงเรียนในประเทศ ยกเว้นชาวต่างชาติรายนั้นจะเปลี่ยนมาใช้สัญชาติไทยจึงจะอนุญาตให้ขอเปิดโรงเรียนได้ แต่กรณีของนายมิคาอิลไม่เคยยื่นเรื่องมาที่สช. เพราะฉะนั้น หากนายมิคาอิลเปิดโรงเรียนสอนดนตรีจริง ก็เป็นการเปิดโรงเรียนเถื่อน
อีกทั้งนายมิคาอิลก็ไม่เคยยื่นเรื่องขอบรรจุเป็นครูชาวต่างชาติที่สอนในโรงเรียนเอกชนด้วย ตามระเบียบหากโรงเรียนต้องการบรรจุครูชาวต่างชาติ ต้องขออนุญาตจาก สช.ก่อน ซึ่งสช.ก็จะส่งเรื่องให้ ตม.และสันติบาลตรวจสอบประวัติของชาวต่างชาติรายนั้น ๆ หากไม่เคยมีประวัติเสียหายหรือประวัติอาชญากร จึงจะอนุญาตให้สอนได้
สวช.วอนร.ร.-พ่อแม่ดูแลลูกไม่ให้เล่นเกมจนขายบริการ
นายสมชาย เสียงหลาย เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ(กวช.) กล่าวว่า อยากจะขอความร่วมมือจากครูอาจารย์ โรงเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่ปล่อยมาเล่นเกมจนไม่มีเงิน ต้องไปขายบริการให้ต่างชาติเช่นนี้ ส่วนตัวเด็กเองต้องมีจิตสำนึก เราคงเข้าไปห้ามไม่ได้ คนที่ใกล้ตัวเด็กที่สุดคือ พ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลเอาใจใส่อย่าให้บุตรหลานตกเป็นเหยื่อหรือมีค่านิยมฟุ้งเฟ้อ ขายบริการเพื่อให้ได้เงินเท่านั้น ต้องสอนว่าสิ่งใดดี หรือไม่ดีด้วย
อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) จะช่วยกันรณรงค์สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กและเยาวชนด้วย พร้อมกับขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตช่วยดูแลอีกทางหนึ่งด้วย
ตร.เล็งตั้งข้อหาเอาผิดเพิ่ม
พ.ต.ท.ออมสิน สุขการค้า หัวหน้าศูนย์พิทักษ์เด็กเยาวชนสตรีป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธร จ.ชลบุรี และตำรวจภูธรภาค 2 (ส่วนหน้า) เปิดเผยว่า ข้อกล่าวหาที่มีการแจ้งกับนายมิคาอิล มีเพียงหนึ่งข้อหาคือ "ละเมิดทางเพศแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม" ซึ่งโทษหากมีความผิดจริงในคดี ตั้งแต่จำคุก 4 ปี - 20 ปี ปรับ 8,000 บาท / 40,000 บาท ซึ่งจากพฤติกรรมของผู้ต้องหาที่เดินทางเข้ามาในไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีธุรกิจอยู่ในเมืองพัทยา ทำให้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่าง เรียกตัวเจ้าของผู้ครอบครองสถานที่ต่างๆ รวมถึงพยานส่วนบุคคลสนับสนุน มาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้คดีมีความสมบูรณ์มากขึ้น เนื่องจากตั้งข้อสังเกตว่าบางข้อหายังแจ้งไม่ครบถ้วน และดูข้อมูลหลักฐาน ที่ตรวจพบว่ามีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน หากพบเบาะแสเพิ่มเติม ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมไปจากนี้
"ตำรวจทำไปตามอำนาจหน้าที่ ส่วนที่มีการแก้เกี้ยวปล่อยข่าวลือว่า มีตำรวจเรียกร้องเงินวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีอันนี้ขอให้สบายใจได้ไม่มีอย่างแน่นอน คดีนี้เป็นคดีที่ตัวบุคคลมีชื่อเสียง เจ้าหน้าที่ต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง ขณะนี้ตำรวจก็ให้ความสำคัญคุ้มครองพยานอันดับแรก เพื่อไปเป็นพยานศาล" พ.ต.ท. ออมสิน ระบุ
นายศุภกร โนจา ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาเด็ก เมืองพัทยา กล่าวว่า ในส่วนร้านอินเตอร์เน็ต ที่มีการพบว่ากลายเป็นแหล่งซื้อบริการทางเพศเด็กโดยกลุ่มชาวต่างชาติ ทางศูนย์พิทักษ์เด็กเยาวชนและสตรีของภาคและของจังหวัด ได้เร่งติดตามจับกุมอยู่แล้ว เบื้องต้นพบว่ามีการรู้เห็นด้วยการที่ร้านอินเตอร์เน็ตบางร้านใช้วิธีการให้เด็กเล่นเกมส์จนเงินหมด เมื่ออยากเล่นต่อก็จะให้เงินกับเด็ก จนกลายเป็นว่าเด็กเป็นหนี้กับร้านเกมส์ จึงมีการเสนอให้เด็กขายบริการทางเพศ ทั้งยังมีการยั่วยุให้เด็กถ่ายภาพลากมอนาจาร โพสต์ลงไปในเว็ปไซต์อินเตอร์เน็ต
"ในส่วนของศูนย์คุ้มครองเด็ก หลังจากเข้าไปดูได้ประสานตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจภูธร จ.ชลบุรี ร่วมกันแกะรอยหาเด็กที่ตกเป็นเหยื่อและทราบว่า มีเด็กนักเรียนอีกจำนวนมากตกเป็นเหยื่อ ซื้อขายบริการทางเพศกับชาวต่างชาติ"นายศุภกร กล่าวและว่า
จากการขยายผลในการสอบถามพยานที่เป็นนักเรียนตกเป็นเหยื่อ ทราบว่าผู้ที่ใช้บริการร้านเกมส์อินเตอร์เน็ต ที่นำเด็กไปล่วงละเมิดทางเพศส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และมีคนไทยเป็นกลุ่มสมาชิกร่วมอยู่ด้วย ซึ่งแนวทางปฎิบัติในการป้องกันต่อไปต้องให้สำนักงานสภาวัฒนธรรม อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการดูแลร้านเกมส์อินเตอร์เน็ต ร่วมกันตรวจสอบร้านต่างๆเหล่านี้อย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรม เพื่อป้องกันเพื่อไม่ให้เด็กเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้านี้ในอนาคต
"ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติต้องอาศัยหน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วน และภาคประชาชน เข้ามามีส่วนช่วยกันแก้ไขปัญหา จึงจะได้ผลอย่างประสิทธิภาพ สำหรับชาวต่างชาติที่ถูกขึ้นบัญชีดำ เราเองได้ร่วมกับตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรีฯ เพื่อร่วมกันดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันยังมีรายชื่อชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่มีพฤติการณ์ชอบละเมิดทางเพศเด็ก ที่จะต้องดำนเนิการหาเด็กผู้เสียหายมาชี้ตัว ยืนยันเพื่อดำเนินการจับกุมในขั้นตอนไป" นายศุภกร กล่าว
ผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ตรายหนึ่ง ในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี กล่าวว่า ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมีทั้งเด็ก และชาวต่างชาติ ที่มาใช้บริการเป็นประจำ ในกรณีของเด็กที่มาใช้บริการนั้นทางร้านจะดูพฤติกรรมของเด็ก ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยมีเด็กที่มีพฤติกรรมส่อไปทางค้าบริการทางเพศ เพราะหากพบก็จะให้ออกไปจากร้าน ส่วนของการป้องกันทางร้านก็สอดส่องดูแลพฤติกรรมที่คาดว่า น่าจะส่อไปทางค้าบริการทางเพศของเด็ก หรือผู้ที่มาล่อลวงเด็กตามร้านอินเตอร์เน็ต หากพบทางร้านก็จะดำเนินการแจ้งเบาะแสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบต่อไป" ผู้ประกอบการรายนี้ระบุ