นครบาลงัด กฎหมายอั้งยี่ ปราบ นักเรียนนักเลง
นครบาลงัดกฎหมายอั้งยี่ปราบนักเรียนนักเลง (คมชัดลึก) "สัณฐาน" เอาจริง ปราบนักเรียนนักเลง งัดกฎหมาย "อั้งยี่" ดำเนินคดีเฉียบ ตะลึง รุ่นพี่ลงขัน ให้เงินทุนสนับสนุนรุ่นน้องล่าคู่อริ ยกพวกตีกัน เมื่อวันที่ 13 มกราคม พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีนักเรียนยิงกันในพื้นที่ สน.ปทุมวัน ว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลให้ความสำคัญกับปัญหานี้เป็นพิเศษ จากการประชุมการสืบสวนคลี่คลายคดีคืบหน้าไปมาก เชื่อมั่นว่าตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน เพราะมีประวัตินักศึกษากลุ่มเสี่ยงและกลุ่มที่เคยก่อเหตุลักษณะเช่นนี้ของทั้งสองสถาบันอยู่แล้ว
"ยอมรับว่าปัญหานักเรียนนักเลงยกพวกตีกัน ยิงกันนั้น เรื้อรังมานานแล้ว ยังไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบแก้ไขได้ อยากเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการที่เป็นหน่วยงานหลักเข้ามาดูแลและเร่งแก้ปัญหาโดยตรง ตำรวจเป็นเพียงปลายเหตุเท่านั้น อยากให้ทุกฝ่ายทุกส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ในส่วนมาตรการของตำรวจนั้นจำเป็นต้องงัดกฎหมายอั้งยี่เข้ามาใช้ดำเนินคดีให้หนัก" พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าว
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับฝ่ายกฎหมายในการบังคับใช้กฎหมายอั้งยี่ซ่องโจรมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นก่อเหตุความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เพื่อดำเนินคดีกับบรรดารุ่นพี่ของแต่ละสถาบัน เพราะการสืบสวนพบว่า มีรุ่นพี่ในสถาบันคอยรวบรวมเงินไว้เป็นกองทุนสนับสนุนให้รุ่นน้องในการก่อเหตุทะเลาะวิวาท และใช้เป็นกองทุนในการประกันตัวรุ่นน้อง หากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังดังกล่าวจะต้องได้รับโทษด้วย เมื่อถามว่าทำอย่างนี้รุนแรงไปหรือไม่ ผบช.น. ตอบว่า ไม่รุนแรงสำหรับเยาวชนและนักศึกษา เพราะเป็นกฎหมายอาญาอยู่แล้วเมื่อมีการกระทำความผิดทางอาญาก็ต้องดำเนินคดีอาญาไปตามนั้น เราควรจะจัดการอย่างเด็ดขาดจริงจังเสียที ปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมและงาน เยาวชนสัมพันธ์ จะเข้าร่วมประชุมกับกระทรวงศึกษาธิการและตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการคุมเข้มแก้ไขปัญหาดังกล่าวซึ่งตำรวจนครบาลก็จะเสนอข้อกฎหมายอั้งยี่ เพื่อจัดการกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ในที่ประชุมด้วย
ด้าน พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านการสืบสวน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ผบช.น. ได้ร่วมประชุมกับพนักงานสอบสวน และ ผกก.สน.ปทุมวัน ซึ่งมีความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้ายโดยได้ตัวผู้ต้องสงสัยและพยานในที่ เกิดเหตุมาสอบปากคำ 4-5 รายและได้ตัวเจ้าของรถจักรยานยนต์ฝ่ายคู่อริที่ก่อเหตุแล้ว แต่เจ้าของรถยังให้การวกวนปฏิเสธอยู่ว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น เพียงแต่ให้เพื่อนยืมรถไปใช้เท่านั้น แต่ตำรวจยังไม่ปักใจคำให้การ จึงควบคุมตัวไว้สอบสวนก่อน เบื้องต้นพบว่า อาวุธปืนที่ใช้เป็นขนาด .38 มีผู้ต้องหาที่ก่อเหตุจำนวน 2 คน ส่วนจะโยงใยกับคดีค้างเก่าที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ รอง ผบช.น.กล่าวถึงการดูแลความความปลอดภัย วันสถาปนาสถาบันอุเทนถวาย ว่า ได้สั่งการให้ตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 โดยเฉพาะ สน.ปทุมวัน และ สน.ใกล้เคียง วางมาตรการคุมเข้มรักษาความปลอดภัย ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตั้งด่านตรวจค้นอาวุธคนเข้าออกอย่างเข้มงวด พร้อมจัดกำลังตำรวจเข้าไปดูแลในบริเวณจัดงานเป็นพิเศษ หากไม่เพียงพอก็จะขอกำลังเสริมจากหน่วยอื่นสนับสนุน เชื่อว่าจะสามารถควรควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรงได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก